ศาลสหรัฐฯตัดสินจำคุก 2 สามีภรรยาที่ติดสินบน ‘จุฑามาศ ศิริวรรณ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเอ ฟพี/เอเยนซีส์ - ศาลชั้นต้นสหรัฐฯ พิพากษาในวันพฤหัสบดี (13) ให้ลงโทษจำคุกนายเจอรัลด์ และนางแพตริเซีย กรีน เป็นเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นก็ให้กักบริเวณจำกัดให้อยู่แต่ภายในบ้านพักอีก 6 เดือน รวมทั้งให้ปรับเป็นเงิน 250,000 ดอลลาร์ (8.125 ล้านบาท) จากความผิดที่ 2 สามีภรรยาผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดคู่นี้ ถูกตัดสินว่าจ่ายสินบนเป็นมูลค่า 1.8 ล้านดอลลาร์แก่ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในเวลานั้น เพื่อให้พวกตนได้รับสิทธิเป็นผู้บริหารจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานา ชาติกรุงเทพฯ
|
|||
นายเจอรัลด์ กรีน วัย 78 ปี และ นางแพตริเซีย กรีน วัย 55 ปี ได้ถูกคณะลูกขุนในศาลชั้นต้นสหรัฐฯ ณ นครลอสแองเจลิส แห่งนี้ ตัดสินไปตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ว่ากระทำความผิดข้อหาวางแผนสมคบคิดกันกระทำความผิด, ละเมิดกฎหมายต่อต้านการทุจริตในต่างประเทศ, และละเมิดกฎหมายการฟอกเงิน
คณะลูกขุนพบว่า สามีภรรยาคู่นี้ ได้จ่ายเงินสินบนเป็นมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านดอลลาร์ ให้แก่นางจุฑามาศ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. ในตอนนั้น เพื่อให้พวกตนได้สิทธิในการเป็นผู้บริหารจัดการเทศกาลภาพยนตร์นานา ชาติกรุงเทพฯ ตลอดจนข้อตกลงด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลาระหว่างปี 2002 จนถึง 2007 โดยจากการได้สิทธิและข้อตกลงต่างๆ เหล่านี้ ทำให้พวกเขาสามารถทำรายรับได้กว่า 13.5 ล้านดอลลาร์
ตามคำฟ้องของฝ่ายอัยการ นายและนางกรีนได้ก่อตั้งบริษัทกลวงๆ ขึ้นมาหลายแห่ง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจ่ายเงินแก่นางจุฑามาศ ทั้งนี้สามีภรรยาคู่นี้ได้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารหลายบัญชีของบุตรสาวนาง จุฑามาศ และพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเปิดเอาไว้ในสิงคโปร์, เจอร์ซี, และอังกฤษ
ตัวนางจุฑามาสเองปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดอะไร แต่เธอและบุตรสาวได้ถูกฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้นสหรัฐฯในลอสแองเจลิสแล้ว ในฐานวางแผนสมคบคิดกระทำความผิดและข้อหาอื่นๆ อีก 8 ข้อหา ถ้าหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ทั้งคู่ก็อาจจะถูกตัดสินจำคุกสูงสุดคนละ 20 ปี
สำหรับในประเทศไทย คณะอนุกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งคำกล่าวหานางจุฑามาศกับพวกกรณีความผิดรับสินบน และประพฤติมิชอบในเรื่องนี้ไปให้อดีตผู้ว่าการ ททท.ผู้นี้รับทราบแล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการไต่สวน
กรณีของนายและนางกรีนนี้ ถือเป็นบุคคลในอุตสาหกรรมบันเทิงคนแรก ซึ่งถูกตัดสินว่ากระทำความผิดตามบทบัญญัติของรัฐบัญญัติพฤติการณ์ทุจริตใน ต่างประเทศ (Foreign Corrupt Practices Act) กฎหมายสหรัฐฯฉบับนี้มีบทมาตราที่ห้ามการจ่ายเงินในลักษณะทุจริตแก่พวกเจ้า หน้าที่ต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ
ศาลสหรัฐฯสั่งจำคุก2สามีภรรยาชาวมะกัน จ่ายสินบนให้อดีตผู้ว่าฯททท.ของไทย
จากประชาชาติธุรกิจ
เอพีรายงานว่า นายจอร์จ อู๋ ผู้พิพากษาศาลแขวงที่นครแองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก นายเจอรัลด์ กรีน อายุ 78 ปี กับนางแพริเซีย กรีน อายุ 55 ปี สามีภรรยานักสร้างภาพยนต์ชาวอเมริกัน 6 เดือน ต่อด้วยโทษกักบริเวณที่บ้านอีก 6 เดือน ในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อให้พวกเขาได้เป็นผู้จัดงานนิทรรศการ ภาพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ กับต้องร่วมกันจ่ายเงินค่าเสียหายอีก 250,000 ดอลลาร์ (ราว 8,250,000 บาท) ข่าวแจ้งว่าเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทั้งคู่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและฟอกเงิน โดยคณะลูกขุนพบว่าทั้งคู่ได้จ่ายสินบนให้นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ประมาณ 1.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 59 ล้านบาท) เพื่อให้ได้จัดงานนิทรรศการภาพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ และข้อตกลงเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆ ในช่วงระหว่างปี 2545-2550 ซึ่งทำให้พวกเขามีรายได้รวมกว่า 13 ล้านดอลลาร์ (ราว 429 ล้านบาท) ทั้งนี้2สามีภรรยากรีนจัดตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อจ่าย เงินให้นางจุฑามาศ และโอนเงินเข้าบัญชีของลูกสาวของนางจุฑามาศกับเพื่อนคนหนึ่ง ทั้งนี้นางจุฑามาศกับลูกสาวไม่ได้ถูกดำเนินคดีในไทย แต่ถูกศาลที่ลอสแองเจลีสตั้งข้อหาว่ามีความผิดจริง ฐานสมรู้ร่วมคิดกับข้อหาอื่นๆอีก 8 ข้อหา และหากถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจได้รับโทษจำคุกมากถึง 20 ปี
ศาลสหรัฐฯจำคุกสองผู้ต้องหาจ่ายสินบน'จุฑามาส'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ศาลสหรัฐฯสั่งจำ คุกแล้ว สองผัวเมีย'กรีน' 6 เดือน กักบริเวณอีก 6 เดือน ข้อหาจ่ายสินบนให้'จุฑามาส'อดีตผู้ว่าททท. จัดนิทรรศการภาพยนต์นานาชาคิ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายจอร์จ อู๋ ผู้พิพากษาศาลแขวงที่นครแองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนียของ สหรัฐฯ ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก นายเจอรัลด์ กรีน อายุ 78 ปี กับนางแพ ริเซีย กรีน อายุ 55 ปี สามี ภรรยานักสร้างภาพยนต์ชาวอเมริกัน 6 เดือน ต่อ ด้วยโทษกักบริเวณที่บ้านอีก 6 เดือน ในข้อหาติด สินบนเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อให้พวกเขาได้เป็นผู้จัดงานนิทรรศการภาพยนต์นานา ชาติกรุงเทพฯ กับต้องร่วมกันจ่ายเงินค่าเสียหายอีก 250,000 ดอลลาร์ (ราว 8,250,000 บาท)
ผู้พิพากษาอู๋กล่าวในระหว่างเปิดเผยคำพิพากษาว่า ความผิด ของทั้งคู่ร้ายแรง แต่ไม่ร้ายแรงเท่าคดีคล้ายกันคดีอื่นๆ และเพราะนายกรีนเป็นโรคถุงลมโป่งพอง จึงพิจารณาว่าการ สั่งจำคุกเขาเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อเขา
เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทั้งคู่ถูกตัดสินว่ามีความผิด จริงในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและฟอกเงิน โดยคณะลูกขุนพบว่าทั้งคู่ ได้จ่ายเงินสินบนให้นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่า การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในตอนนี้ประมาณ 1.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 59 ล้านบาท) เพื่อให้ได้จัดงาน นิทรรศการภาพยนต์นานาชาติกรุงเทพฯ และข้อตกลงเกี่ยวกับการท่อง เที่ยวอื่นๆ ในช่วงระหว่างปี 2545-2550 ซึ่งทำ ให้พวกเขามีรายได้รวมกว่า 13 ล้านดอลลาร์ (ราว 429 ล้านบาท)
ข่าวระบุว่าสามีภรรยากรีนจัดตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อจ่ายเงินให้นาง จุฑามาศ และโอนเงินเข้าบัญชีของลูกสาวของนางจุฑามาศกับเพื่อน คนหนึ่ง ทั้งนี้นางจุฑามาศกับลูกสาวไม่ได้ถูกดำเนินคดีในไทย แต่ถูกศาลที่ลอสแองเจลีสตั้งข้อหาว่ามีความผิดจริง ฐาน สมรู้ร่วมคิดกับข้อหาอื่นๆอีก 8 ข้อหา และหากถูก ตัดสินว่าผิดจริง อาจได้รับโทษจำคุกมากถึง 20 ปี
ทนายของสามีภรรยากรีนยืนยันว่าเงินที่จ่ายไม่ใช่เงินสินบน พร้อม ตั้งข้อสงสัยเรื่องทฤษฏีของอัยการที่ว่าทั้งคู่ได้กำไรที่คาดไม่ถึงจากการทำ งานในไทย ทั้งคู่เป็นสองคนแรกในอุตสาหกรรมบันเทิงสหรัฐที่ถูก ตัดสินว่ามีความผิดจริง ภายใต้กฏหมายพฤติกรรมคอรัปชั่นในต่าง ประเทศของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่ห้ามการจ่ายเงินสินบนให้เจ้า หน้าที่ต่างชาติเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจ
ศาลสหรัฐยังไม่ขอตัว'จุฑามาศ'คดีรับสินบน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
กรมสารนิเทศ เผยศาลแขวงลอสแองเจลีส ยังไม่ขอตัวอดีตผู้ว่าการททท. ดำเนินคดีรับสินบนจัดเทศกาลภาพยนตร์
จากกรณีที่ศาลแขวงนครลอสแองเจลี ส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายเจอรัลด์ กรีน วัย 78 ปี กับนางแพริเซีย กรีนวัย 55 ปี สองสามีภรรยานักสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เป็นเวลา 6 เดือน และต่อด้วยโทษกักบริเวณที่บ้านอีก 6 เดือน ในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อให้พวกเขาได้เป็นผู้จัดงานบางกอกฟิล์ม เฟสติวัลนั้น
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าสหรัฐยังไม่ได้ติดต่อประสานขอตัวนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งตามขั้นตอนหากต้องการตัวก็ต้องส่งเรื่องผ่านกระทรวงการต่างประเทศก่อน จากนั้นกระทรวงจะเป็นผู้ประสานไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดในเรื่องดำเนินการ ติดตามตัวนางจุฑามาศเพื่อส่งไปดำเนินคดียังสหรัฐต่อไป
ปปช.สอบสินบนททท.แล้วรอ'จุฑาวรรณ'แก้ต่าง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ป.ป.ช.สอบข้อมูล คดีสินบน ททท.แล้ว รอผู้ถูกกล่าวหาแจงก่อนไต่สวนสรุปชี้มูลส่งชุดใหญ่ เผย"จุฑามาศ"ส่งหนังสือแจงแล้วเงียบ DSIไม่รู้ยังอยู่ในไทย
หลังจากศาลแขวงนครลอสแองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายเจอรัลด์ กรีน วัย 78 ปี กับนางแพริเซีย กรีนวัย 55 ปี สามีภรรยานักสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เป็นเวลา 6 เดือน และต่อด้วยโทษกักบริเวณที่บ้านอีก 6 เดือน ในข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เพื่อให้ได้เป็นผู้จัดงานบางกอกฟิล์มเฟสติวัล
เรื่องนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งนายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อกล่าวหานางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ท.ท.ท.) และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว คดีรับสินบนเทศกาลหนังบางกอกฟิล์มฯ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาป.ป.ช.ได้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยตนและเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปประสานกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และเอฟบีไอ
รวมทั้งขอข้อมูลจากศาลรัฐบาลกลางใน ลอสแองเจอริส เพื่อนำข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบสำนวนการไต่สวนและพิจารณาคดี รวมทั้งการเข้าไปสอบสวนข้อมูลจากทั้ง ททท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับนางจุฑามาศอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคดีมีความคืบหน้าพอสมควร
โดยขณะนี้ป.ป.ช. มีข้อมูลเกี่ยวกับการติดสินบนคดีดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นางจุฑามาศรับทราบแล้ว เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายัง ป.ป.ช. แต่ตลอดระยะเวลาที่มีการรวบรวมข้อเท็จจริง นางจุฑามาศยังไม่เคยเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับ ป.ป.ช. เพียงส่งหนังสือคำให้การมายังสำนักงาน ป.ป.ช.
“หากนางจุฑามาศสามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ ในแต่ละประเด็น คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช.ก็จะพิจารณาคำแก้ข้อกล่าวหาในแต่ละข้อ จากนั้นคณะอนุกรรมการฯ จึงจะชี้มูลความผิดแล้วส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่เป็นผู้ชี้ขาดอีกทางหนึ่ง” นายเมธี กล่าว
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า หลังจากดีเอสไอส่งสำนวนที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบการกระทำความผิด ของเจ้าหน้าที่รัฐส่งให้ ป.ป.ช.แล้ว ดีเอสไอก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสอบสวนอีก เพราะกฎหมายไม่ให้หน่วยงานอื่นมีอำนาจสอบสวน นอกจากนี้ยังไม่ปรากฏข้อมูลการข่าวว่านางจุฑามาศและบุตรสาวยังพักอยู่ใน ประเทศไทย หรือเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศใด
สำหรับคดีนี้เริ่มต้นที่เอฟบีไอประสาน ข้อมูลการโอนเงินที่เชื่อว่าเป็นเงินสินบนเข้าบัญชีธนาคารในต่างประเทศของ น.ส.จิตติโสภามายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ ตรวจสอบกรณีการรับเงินสินบนจัดมหกรรมเทศกาลหนังในเมืองไทย ต่อมาดีเอสไอตรวจสอบพบว่านางจุฑามาศเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์ จึงได้ส่งสำนวนให้ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ เนื่องจากดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวนคดีการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบของเจ้าหน้าที่ รัฐ