สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผู้นำองค์กรที่ล่มจมด้วยเรื่องเล็กน้อย

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โดย : โกศล อนุสิม www.kosoltalk.com/biztalk


คนเรานั้นมักมองสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ ซึ่งเป็นความประมาทอย่างยิ่งทำให้ไม่ระมัดระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
แม้จะมีคำเตือนให้ระมัดระวัง แต่ก็ไม่สนใจ ทำให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก่อผลเสียหายอย่างใหญ่หลวงเป็นอันมาก ซึ่งมีให้เห็นเสมอๆ
 

สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนให้ใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งเรื่องบุญเรื่องบาป นั่นคือ เรื่องบาปเล็กๆ น้อยก็อย่าประมาทไปทำ เพราะทำได้ง่าย ทำแล้วก็ทำบ่อยๆ เมื่อทำบ่อยๆ เข้าก็สะสมเป็นบาปกองใหญ่ ทั้งยังนำไปสู่การทำบาปที่ใหญ่ขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ กลายเป็นความเคยชินในการทำบาปยิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนบุญก็เช่นกัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็อย่าละทิ้ง เพราะทำมากๆ เข้า ก็สะสมเป็นบุญใหญ่ เมื่อทำบุญบ่อยๆ ก็จะเคยชินทำให้ทำมากขึ้นๆ กลายเป็นผู้ทรงความดีในที่สุด
 

ความเสียหายจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ขอยกมาเป็นอุทาหรณ์ คือ เรื่องนายมาร์ค เฮิร์ด อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ฮิวเลตต์-แพคการ์ด ซึ่งปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ได้ทำการตกแต่งรายงานค่าใช้จ่ายจำนวน 20,000 ดอลลาร์ อันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้จัดงานอีเวนท์หญิงเป็นดาราทีวีดังจัดรายการเรียลลิตี้แลกกับการมีสัมพันธ์สวาท แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงไม่ยอมเล่นด้วย ทั้งยังนำเรื่องเปิดโปงให้สาธารณชนรับรู้ เป็นผลทำให้นายมาร์ค เฮิร์ด ถูกไล่ออกจากงาน เสื่อมทั้งลาภ ยศ สรรเสริญ จนนิตยสารไทม์ (Times) จัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ซีอีโอจอมอื้อฉาวของโลก
 

นี่เป็นตัวอย่างของการทำผิดเล็กๆ น้อยๆ  มูลค่าเพียง 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ของบริษัทที่มีนับหมื่นล้านดอลลาร์และรายได้ของ นายมาร์ค เฮิร์ด ที่ได้รับปีละนับสิบล้านดอลลาร์ แต่ถึงแม้จะเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับความซื่อสัตย์สุจริตซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตนี้เป็นคุณธรรมที่ผู้บริหารจะขาดมิได้ เช่นเดียวกับวินัยของพระสงฆ์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงความดีกว่าชาวบ้าน หากขาดความซื่อสัตย์โดยหยิบฉวยเอาสิ่งของผู้อื่นโดยที่เขาไม่เต็มใจให้มูลค่าตั้งแต่หนึ่งบาทขึ้นไปต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระโดยทันที แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เห็นก็ตามเพราะความผิดนั้นเกิดขึ้นแล้ว
 

เรื่องของนายมาร์ค เฮิร์ดนี้นอกจากละเมิดคุณธรรมเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว ยังผิดศีล 5  อีกหลายข้อ เริ่มตั้งแต่ศีลข้อที่ 2 อันเป็นการเบียดบังทรัพย์สินของบริษัทโดยมิชอบ ศีลข้อที่ 3 ล่วงละเมิดหญิงอื่นโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม ศีลข้อที่ 4 โกหกหลอกลวงผู้อื่น ซึ่งการทำเรื่องตกแต่งบัญชีรายจ่ายโดยไม่เป็นความจริงย่อมเป็นการโกหก รวมกันแล้วก็ผิดศีล 5 มากกว่าครึ่ง การถูกจับได้และโดนไล่ออกนั้น นับว่าบาปส่งผลโดยฉับพลันทันใด ดังที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า กรรมติดจรวดนั่นเอง
 

หากนายมาร์ค เฮิร์ด ไม่ถูกจับได้ในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะกระทำผิดต่อไปอีกหลายครั้ง ซึ่งอาจจะเพิ่มวงเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ดังที่บรรดาซีอีโอจอมอื้อฉาวรายอื่นๆ ที่นิตยสารไทม์จัดอันดับไว้ในคราวเดียวกับนายมาร์ค เฮิร์ด ตัวอย่างได้แก่ นายเคนเนธ เลย์ ซึ่งเสียชีวิตแล้วและเป็นอดีตซีอีโอของบริษัทเอ็นรอนอันเคยเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ร่วมกับผู้บริหารบางคนตกแต่งบัญชีของบริษัทที่ขาดทุนให้มีกำไร ทั้งยังยักยอกเอาทรัพย์ของบริษัทไปเป็นของตน ในที่สุด ความลับก็เปิดเผยในปี 2543 ผลก็คือบริษัทล่มจม ตัวเองก็ล่มจมไปด้วย ต่อมานายเคนเนธ เลย์ ตายไปส่วนคนที่ร่วมทำผิดติดคุกติดตะรางอยู่จนทุกวันนี้
 

ดังที่เล่ามาจะเห็นได้ว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นั้น แท้จริงแล้ว ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลย เพราะเรื่องใหญ่ๆ ทั้งหลาย ล้วนแต่เริ่มมาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เรื่องบุญหรือเรื่องบาป ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาท โดยเฉพาะผู้ใหญ่ทั้งหลาย ผู้นำทั้งปวง ไม่ว่าจะในวงการใด เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะส่งผลต่อคนหมู่มาก หากเป็นผู้นำองค์กรนอกจากตัวเองจะได้รับผลร้ายแล้วยังอาจทำให้องค์กรล่มสลายส่งผลต่อชีวิตของพนักงานนับร้อยนับพันนับหมื่น หากเป็นผู้นำประเทศผลเสียหายย่อมร้ายแรงยิ่งขึ้น คนนับล้านๆ จะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
 

ขอฝากเรื่องนี้ไว้กับท่านผู้นำทั้งหลาย ว่า อย่าทำให้องค์กรและตัวท่านล่มจม เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลยนะครับ พึงระลึกไว้เสมอว่า เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่มี เพราะทุกเรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น ดังนี้จะได้เป็นการไม่ประมาท - - safety first  ดีไหมครับ

Tags : ผู้นำองค์กร ล่มจม เรื่องเล็กน้อย

view