แม้ว โฟนอินดับฝัน มิ่งขวัญ ย้ำยังไม่เลือกแคนดิเดตนายกฯ สั่งกองเชียร์หุบปาก โวกวาด ส.ส. 270 ที่นั่ง
จากประชาชาติธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชและพรรคเพื่อไทยประกาศจับมือทางการเมือง วันที่ 5 เมษายน นายเสนาะได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมพูดคุยกับแกนนำพรรค เพื่อไทย นำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเดินทางกลับไปโดยไม่ได้เข้าร่วมประชุม ส.ส.กับพรรคเพื่อไทย
ต่อมาเวลา 14.30 น. มีการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินมายังที่ประชุม โดยได้เน้นย้ำให้ ส.ส.ลงพื้นที่เนื่องจากเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว เนื่องจากตนส่งสายตรวจไปแล้วทราบว่า ที่ผ่านมายังลงพื้นที่กันน้อย ส่วนตอนนี้มีคนปล่อยข่าวออกมาเยอะว่าจะไม่มีเลือกตั้ง สาเหตุเพราะนายกรัฐมนตรีประเทศไทยไม่ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูก็ได้ ซึ่งไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนทำกัน อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจทหารก็ทำมาแล้ว หากประเทศยังปล่อยอย่างนี้ไม่มีทางเจริญงอกงาม แต่พรรคเราต้องยืนหยัด แม้จะมีการปล่อยข่าวปฏิวัติ แล้วมีนายกฯมาตรา 7 เราก็ต้องเตรียมการเลือกตั้งให้พร้อม เพราะเราเป็นพรรคของประชาชน แต่ตนไม่สบายใจที่ตอนนี้เกิดมีพรรคพวกในพรรค ซึ่งความจริงอยากบอกว่าทุกคนในพรรคคือพวกตนหมด แต่ที่ตนใช้งานไม่เหมือนกันเพราะแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน แต่ตนรักทุกคนเพราะเป็นองค์กรเดียวกัน แต่ตนไม่อยากให้ผู้ใหญ่ที่เป็นแกนหลักไปเล่นด้วย ควรดูแลให้ความเป็นธรรมน้องๆ ทุกคน และอย่าห่วงตัวเองมากนัก ผู้ใหญ่ต้องสร้างภาวะผู้นำให้พรรค
"เรื่องหัวหน้าพรรค วันนี้ไม่มีการเปลี่ยนตัวแน่นอน เพราะยังไม่มีการเลือกตั้ง ฉะนั้น ไม่ต้องมีใครมาเสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค เพราะไม่มีการเปลี่ยน คนเซ็นชื่อรับรองส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นชื่อยงยุทธ วิชัยดิษฐ แน่นอน ส่วนการเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่ถึงเวลา สภาก็ยังอยู่แล้วจะมาเสนอใคร ตลกน่ะ เราเสนอไปตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จบแล้ว ฉะนั้น กองเชียร์ก็ไม่ต้องเชียร์จนพรรคเสียหาย ไม่ใช่เรื่องดี ผมก็รู้ว่าบางคนไปเข้าใจว่าจะได้เงินทอง วันนี้คิดว่าผมไม่มีเหรอ และคิดว่าผมไม่รู้เหรอ วันนี้ผมไม่ได้ตำหนิใครโดยตรง จึงไม่ต้องร้อนใจ แต่วิธีการโวยวายอย่างนั้นจบได้แล้ว ตั้งหน้าตั้งตาหาเสียงได้แล้ว อย่าไปโวยวายอย่าไปคิดว่าเชียร์ใครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ตัวเองจะได้เป็นรัฐมนตรี ท่านเชียร์พรรค รักพรรค ทำงานให้พรรคได้เป็นแน่"
"วันนี้ผมเลยต้องพูดให้ชัดๆ อย่างที่พูดไว้ในทวิตเตอร์ 9 ข้อ จึงอย่าบิดเบือนคนไม่มีความสามารถให้ประชาชน เพราะเราโตมาได้ด้วยประชาชนแม้จะถูกย่ำยีแค่ไหน ถูกยุบพรรคมากี่ครั้งประชาชนก็ยังให้การสนับสนุน ก็ยังรู้ว่าเป็นพรรคผม คนที่จะเป็นนายกฯ ต้องยึดประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ตัวเอง ไม่ใช่พูดเก่งอย่างเดียว วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ พูดเก่งอย่างเดียวทำอะไรไม่ได้ คุณสมบัติสำคัญที่สุดของคนที่จะเป็นนายกฯ คือต้องรักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แล้วไม่ต้องห่วง ผมดูเองเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ ผมต้องคิดหน้าคิดหลังให้มากๆ และผมเป็นนักสู้ ประชาชนให้โอกาสขนาดนี้ ผมต้องกลับไปตอบแทนแน่นอน ส่วนสปอนเซอร์ทั้งหลาย พรรคขอขอบคุณและพรรคจะตอบแทนตามความเหมาะสม แต่ถ้าไม่พอใจคิดว่าให้แค่นี้ก็ขอให้บอกจะคืนให้ แต่ถ้าให้ใจผมแล้วผมจะดูแลท่านเอง ตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไร ขอแค่ให้ท่านเสียสละเพื่อองค์กร มีอะไรโทร.หาผมได้เที่ยงวันยันเที่ยงคืน" แหล่งข่าวอ้างคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ
ข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังระบุว่า ได้ปรึกษา พล.อ.ชวลิตและนายเสนาะว่าจะชูใครเป็นนายกฯ คนจะเป็นนายกฯ แน่นอนว่าเสนอไปแล้วต้องชนะ เอาใครไปแล้วต้องมีผลต่อการชนะ เมื่อชนะแล้วต้องไม่เสียของ ต้องทำงานเป็นต้องบริหารเป็นและต้องเป็นรอยัลลิสต์ แต่ที่แน่ๆ คนจะเป็นนายกฯ คือปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 ส่วนลำดับที่ 2-10 ก็ให้ไปจับสลากกันเองเพราะเดี๋ยวจะน้อยใจหาว่าตนเลือกที่รักมักที่ชัง แต่คนจะเป็นนายกรัฐมนตรีจับสลากไม่ได้ เดี๋ยวเสียหายหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึงการเลือกตั้งว่า หากพรรคเพื่อไทยป้องกันการโกงได้ คำว่าแพ้ไม่มีแน่ มีแต่ชนะมากเท่าไหร่ โดยตนโทร.ไปคุยกับหลายคนพูดตรงกันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแต่แย่ลง ซึ่งวันนี้การเมืองเป็น 2 ขั้ว เมื่อน้อยข้างหนึ่ง ก็เพิ่มข้างหนึ่ง ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยยิงยังไงก็ไม่เข้า เพราะวันนี้คนไทยไม่เหมือนเดิม พรรคเล็กๆ ส่วนใหญ่ขายตัวไปเลยคิดว่าจะซื้อประชาชนได้เหมือนกับตัวเอง แต่ไม่เหมือนกันหรอกเพราะประชาชนไม่ได้มีอาชีพโสเภณี สำหรับการเมืองวันนี้เราเสียเปรียบเรื่องอำนาจรัฐ แต่ให้รู้ไว้ว่าอำนาจรัฐในวันที่มีเลือกตั้งไม่เหมือนกันและขอให้จำไว้ให้ดี เมื่อไปหาเสียงให้ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ประโยชน์ตัวเอง
"ส่วนเรื่องระดมสตังค์ก็ไม่ต้องวิตก วันนี้เริ่มระดมแล้ว 2 เท่า ไม่ใช่ว่าผมเงินไม่มี เงินมีแต่ใช้เป็น ก่อนอื่นให้รู้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคขี้โกง มีแต่ถูกโกง ฉะนั้น เราจะไม่ใช้เงินไปเที่ยวปาหัว ใช้เงินซื้อเสียงเหมือนที่คนโกงเขาใช้ เราจะใช้ให้เกิดประโยชน์ ขอให้จำไว้ว่าผู้ชนะคือผู้คิดเกมใหม่ ผู้เล่นเกมคนอื่นไม่มีทางชนะ ถ้าเขาซื้อเราจะซื้อแข่งไม่ได้ แต่พรรคเราเป็นพรรคกระแส ดังนั้น ต้องขายนโยบายขายศรัทธาต่อประชาชน อย่าไปคิดซื้อเสียง ตอนนี้ไม่มีตังค์ก็ขอเมียใช้ไปก่อน เดี๋ยวจะจ่ายย้อนหลังให้ วันนี้เท่าที่ผมนั่งดูคร่าวๆ เราน่าจะได้ไม่น้อยกว่า 270 ที่นั่ง ส่วนที่ภาคใต้ซึ่งโพลบางสำนักบอกว่าประชาชนจะเลือกพรรคเพื่อไทยแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ามั่ว เป็นเพียงการตีรองน้ำเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่การโกงในอนาคต"
ข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังระบุว่า ตนเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ดังนั้น จะขอบอกไว้ก่อนเลยว่าก่อนเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ขอให้ทุกคนเซ็นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้เผื่อวันหนึ่งอุดมการณ์ไม่ตรงกัน เช่น เวลาหาเสียงก็บอกว่าจะเอาตนกลับบ้าน แต่เวลาโหวตในสภากลับไปยกมือให้ฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งถือเป็นการหลอกประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าพวกเราบางคนอาจไม่ชอบเสื้อแดง แต่คนเสื้อแดงเขามีใจกับเรา วันนี้เขาเป็นกำลังสำคัญ อย่าไปทะเลาะ ขอให้ไปบริหารความสัมพันธ์ให้ดี
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวว่า ในวันที่ 24 เมษายน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเปิดนโยบายทั้งหมดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิตนั้น จะเป็นคนแนะนำและพูดเรื่องรายละเอียดทั้งหมดทั้งนโยบายเก่าที่นำมาปรับปรุง และนโยบายใหม่ ของแท้ต้องมีรูปนายห้างตราดูไบ โดยขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางของประชาชนอาจมาค้างสักคืน ประชุมเสร็จแล้วก็แห่ผู้สมัครกลับบ้านไปเลย พร้อมกันนี้ยังย้ำเรื่องความสามัคคีและการลงพื้นที่เพราะตนเองอยากกลับบ้าน แล้ว แต่ไม่ต้องให้ใครมาขัดรองเท้าให้ เวลาที่ตนไปพักตามโรงแรมในแถบแอฟริกาก็จะมีคนมาขัดรองเท้าให้ส่วนใหญ่เป็นคน ผิวดำ ใจจริงไม่อยาก แต่ก็คิดว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือเขา แต่กลับมาไทยแล้วคงไม่มีคนตัวดำๆ มาขัดรองเท้าให้ เดี๋ยวจะหลงเข้าใจผิดว่าอยู่แอฟริกา
ข่าวแจ้งว่า ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวจบ นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่าตนเองไม่ได้พูดว่าพรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพื่อจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และประธานวิปฝ่ายค้านยืนยันให้ตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมานั้น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยร่วมประชุมอยู่ด้วย และหลังประชุมเสร็จ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในส่วนที่ไม่ได้สนับสนุนนายมิ่งขวัญได้จับกลุ่มวิพากษ์ วิจารณ์ โดยบางคนกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนมากในเรื่องตัวแคนดิเดตนายกฯ ว่าไม่ใช่นายมิ่งขวัญ
'ทักษิณ'บอกกลุ่มหนุน'มิ่งขวัญ' อย่าเชียร์เกิน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ทักษิณ"แขวะกลุ่มเชียร์"มิ่งขวัญ"อย่าเชียร์จนเลอะเทอะ ระบุว่าที่นายกฯเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์1 ส่วน2-10 จับสลาก ย้อน"สุเทพ" ขัดรองเท้าเองได้
พรรคเพื่อไทย- แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาในที่ประชุมเพื่อพูดคุยกับแกนนำพรรคและส.ส.พรรค โดยพูดคุยหารือกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อที่ประชุมพรรคว่า ยินดีต้อนรับสมาชิก ทั้งนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จะมาร่วมอุดมการณ์การเมืองกับพรรคเพื่อไทย วันนี้สมาชิกต้องระวังเรื่องการโกงเลือกตั้ง เพราะรัฐบาลชุดนี้เข้าสู่อำนาจด้วยการโกงและอยากอยู่ต่อด้วยวิธีเดิมอีก อาศัยทหารและศาลรัฐธรรมนูญในการช่วย อย่าไปเชื่อถือคำพูดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า จะยุบสภาสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. เพราะวันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่เป็นตัวของตัวเอง เราต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อน เวลานี้มีการปล่อยข่าวปฏิวัติ นายกฯ มาตรา 7 แต่ไม่ต้องไปใส่ใจ เราเตรียมการเลือกตั้งอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ตนได้ส่งสายตรวจไปดูผู้สมัครส.ส.ของพรรคแล้วพบว่า ลงพื้นที่น้อยมาก อย่าคิดว่าตนไม่รู้ ต้องลงพื้นที่กันให้มากกว่านี้
“วันนี้บางคนในพรรคคิดถึงแต่ตัวเองมาก คิดจะเป็นผู้นำ แต่การเป็นผู้นำนั้นต้องคิดจากนอกไปหาใน ต้องเอาประเทศชาติและประชาชนมาก่อนตัวเอง ไม่ใช่เอากลุ่มตัวเองมาเป็นใหญ่ ถ้าพรรคอยู่ไม่ได้ตัวเองจะอยู่ได้อย่างไร คนในพรรคมีความสามารถไม่เหมือนกัน อย่าเล่นพวก คนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ก็ต้องสร้างภาวะผู้นำ ต้องไปช่วยหาเสียงบ้าง วันนี้หัวหน้าพรรคคงไม่เปลี่ยน แต่จะเสนอใครเป็นนายกฯ นั้นวันนี้ยังไม่ถึงเวลาเพราะสภายังไม่ยุบ นายมิ่งขวัญ (แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน) ครั้งที่แล้วเสนอตัวเป็นนายกฯ แต่หนังเรื่องแรกจบแล้ว หนังเรื่อง 2 ยังไม่เริ่ม ฉะนั้นอย่าเพิ่งไปเชียร์กันเลอะเทอะ ได้เงินก็เชียร์ แล้วผมไม่มีเงินหรือ เชียร์จนพรรคเสียหาย อย่าคิดว่าเชียร์ใครเป็นนายกฯ แล้วตัวเองจะได้เป็นรัฐมนตรี ผมไม่ได้ตำหนิใครโดยตรง แต่คนที่เชียร์พรรครักพรรคนั้นจะได้เป็นรัฐมนตรีแน่นอน ” แหล่งข่าวอ้างคำกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังระบุอีกว่า วันนี้มีแต่ชนะมากหรือน้อยเท่านั้น ถ้าป้องกันการโกงได้ โพลต่างๆ ก็ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ความนิยมลดลง ตอนนี้พรรคเล็กใช้เท่าไหร่ก็ไม่ได้ ปัจจุบันใช้เงินเท่าไหร่ก็ซื้อประชาชนไม่ได้ อย่าไปขวัญอ่อนตกใจง่าย วันนี้ประชาชนเข้าใจผลประโยชน์ของตนเอง แต่อย่าไปยัดเยียดคนที่ไม่มีความสามารถให้ประชาชน เราโตมาจากประชาชน การพูด การทำงานต่างๆ ต้องเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ตนให้คุณสมบัติ 9 ข้อคนที่เป็นนายกฯ ไปแล้ว คงจะมีการซีล็อกให้ประชาชนแล้ว ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และนายเสนาะถึงเรื่องคนที่เป็นนายกฯ ต้องชนะเลือกตั้ง รวมทั้งชนะแล้วต้องไม่เสียของ นายกฯ ต้องปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ส่วนลำดับที่ 2-10 เอาผู้ใหญ่ในพรรคและแกนนำมาจับสลากกัน จะได้ไม่หาว่าตนเลือกที่รักมักที่ชัง และอย่าห่วงเรื่องเงิน เรื่องคนสนับสนุน เพราะทราบว่ามีคนหนุนเยอะ แต่อย่าไปใช้เงินปาหัวประชาชนเหมือนบางพรรค ผู้ชนะต้องคิดเกม ไม่ใช่เล่นเกมแข่งกับเขา พรรคเราขายนโยบาย ขายความสุข อย่าไปคิดซื้อเสียง เพราะนอกจากไม่ชนะแล้วยังจะโดนใบแดงด้วย ต้องเน้นการปราศรัยให้ความรู้กับประชาชนจะดีกว่า
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการเปิดนโยบายพรรคในวันที่ 24 เม.ย.นั้น ดูแล้วดีมาก รับรองว่าส.ส.จะต้องบ่นว่าออกนโยบายมาดีจนประชาชนให้คะแนนเยอะเกินไป ตนจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายที่ออกมา คนที่ไม่เลือกก็จะเลือกเรา ส่วนคนที่เลือกอยู่แล้วก็จะมั่นใจ เพราะของแท้ต้องนายห้างตราดูไบ เป็นโยบายที่คิดต่างจากรัฐบาลนี้ที่บริหารบนเครื่องคิดเลข อยากเอาเงินไปแจกก็กู้เงิน แต่เอามาแล้วก็มาโกงกัน สุดท้ายประเทศก็เป็นหนี้ ตอนนี้ไม่ต้องห่วงตน เพราะตนมีเหมืองทองอยู่ 8 ประเทศ ถ้าประชาชนยังให้โอกาสก็จะหาทางกลับไปตอบแทน ส่วนที่บอกว่าหากตนกลับไปแล้วจะมีคนตัวดำมาขัดร้องเท้าให้นั้น ตนไม่อยากให้ใครมาขัดให้หรอก เพราะตนเป็นอดีตนักเรียนนายร้อยมาก่อน ขัดรองเท้าเองได้ ขอย้ำอีกครั้งว่า คนเป็นนักการเมืองต้องมีอุดมการณ์ หาเสียงกับประชาชนอย่างไรต้องทำอย่างนั้น ไม่ใช่พูดอย่างแต่ทำอย่าง