สำนักงานสอบบัญชี พี แอนด์ อี,สำนักงานบัญชี พี.เอ.แอล.,คณะบุคคลที่ปรึกษา พี.เอ.ที.,#สำนักงานบัญชี,#ผู้สอบบัญชี,#ทำบัญชี,#สอบบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,#ผู้สอบบัญชีภาษีอากร

สาระ สำคัญที่คณะกรรมการเห็นว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษี เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมากรมสรรพสามิตมีข้อระเบียบปฏิบัติต่างๆ ในการจัดเก็บภาษีจากสถานบริการเป็นปกติอยู่แล้ว จึงไม่มี เหตุผลอะไรที่จะไม่จัดเก็บภาษีจากซานติก้าผับ และไม่ว่าจะมีการจดทะเบียนเป็นสถานบริการหรือไม่ ก็ต้องเสียภาษี

กรมสรรพสามิตจะมาอ้างว่าซานติก้าผับไม่ได้จดทะเบียนเป็นสถานบริการจึงไม่ต้องเสียภาษี ก็ ไม่สามารถนำมากล่าวอ้างได้

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ผลสรุปของคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นมาตรฐานการปฏิบัติสำหรับการเก็บภาษีธุรกิจ สถานบริการ ผับ ร้านเหล้า บาร์ และสถานบริการกินดื่มทั่วประเทศ ไม่ว่าจะมีฟลอร์เต้นรำ หรือไม่มี แต่ถ้ามีการเปิดดนตรี เต้นรำกันเป็นประจำก็ต้องเสียภาษี 10% จากรายรับที่เกิดขึ้น

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ถ้าพิจารณาจากรายได้ของบริษัท ไวท์ แอนด์บราเธอร์ 2003 ซึ่งเป็น เจ้าของกิจการของซานติก้าผับจะต้องเสียภาษีในช่วง 5 ปี ประมาณ 30-40 ล้านบาท และต้องเสีย เบี้ยปรับเพิ่มนับจากวันที่ไม่จ่ายภาษีอีก ซึ่งจะตกประมาณเกือบ 200 ล้านบาท

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จะมีการเก็บภาษีย้อนหลังกับซานติก้าผับ หรือจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่จัดเก็บภาษีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ รมช.คลังว่าจะดำเนินการอย่างไร

ก่อนหน้านี้ นพ.พฤฒิชัย ได้ ระบุว่า การจัดเก็บภาษีซานติก้าผับหรือไม่จะถือเอาคำตัดสินของคณะกรรมการชุดที่มีนาย สถิตย์เป็นหลัก หากตัดสินว่าต้องเก็บภาษี ก็ต้องดำเนินการตามนั้นซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบกับสถานบริการเป็นจำนวนมาก เพราะปัจจุบันมีสถานบริการ ที่เปิดบริการในลักษณะเดียวกับ ซานติก้าผับหลายแห่งไม่เสียภาษี

ขณะที่มีสถานบริการที่เสียภาษีถูกต้องในพื้นที่กทม. เพียง 28 แห่งเท่านั้น