จากประชาชาติธุรกิจ
นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับตลาดทุนประจำเดือนสิงหาคม มีมติเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคลากรใน ธุรกิจตลาดทุน ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ใช้กับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และในบางจุดได้กำหนดให้เข้มงวดกว่า เนื่องจากบุคลากรในตลาดทุน ซึ่งได้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการกองทุน ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ทั้งในธุรกิจหลักทรัพย์และในธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ลงทุนโดยตรงและอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ของผู้ลงทุนด้วย
นายธีระชัยกล่าวว่า ก.ล.ต.ได้กำหนดลักษณะต้องห้ามไว้ 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่มีลักษณะต้องห้ามที่ชัดเจนแล้ว เช่น เป็นบุคคลล้มละลาย หรือถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ 2.กลุ่มที่มีประวัติการถูกดำเนินการหรือถูกลงโทษที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร งานที่มีลักษณะหลอกลวง ฉ้อโกง หรือทุจริตเกี่ยวกับทรัพย์สิน และ 3.กลุ่มที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง ซึ่ง ก.ล.ต.จะพิจารณาเป็นรายกรณี และเปิดโอกาสให้บุคคลดังกล่าวชี้แจง
"ลักษณะต้องห้ามที่กำหนดเข้มงวดกว่าผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเช่น กรณีถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น โดย ก.ล.ต.จะปฏิเสธในการขอรับความเห็นชอบ หรือจะตำหนิโดยเปิดเผย สั่งพัก หรือเพิกถอน หรือห้ามปฏิบัติหน้าที่ แล้วแต่กรณี" นายธีระชัยกล่าว