ที่ สินค้าหรือบริการพยายามปรับขนาดให้ราคาขายได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ที่พอใจจะจ่าย โดยถ้าสินค้าหรือบริการไหนสามารถตั้งราคาให้ได้เปรียบในการแข่งขัน (Price Competitiveness) สิ่งนี้จะมีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จในตลาด เพราะราคาถือเป็นปัจจัยหนึ่งในความสำเร็จตามส่วนผสมตลาด 4’P

แต่จากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนสินค้าและการดำเนินงานปรับสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในปี ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าหรือบริการหลายประเภท ราคาน้ำมันโลกได้ปรับตัวขึ้นไปสูงถึงกว่า 147 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันราคาแกว่งอยู่ระดับ 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อลดหรือระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

ปัจจัยหลักดังกล่าวทำให้มีการนำกลยุทธ์ไซซิงอย่างมีวาระซ่อนเร้น โดยปรับลดปริมาณสินค้าลง นอกจากนี้ยังมีการออกขนาดเล็กเพื่อให้เหมาะกับกำลังซื้อต่อครั้ง แต่เมื่อนำมาเทียบราคาสินค้าต่อหน่วย ปริมาณที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับราคานั้น ทำให้สินค้าต่อหน่วยแพงขึ้น

ตามที่นายอภิสันต์ กษมานนท์ เจ้าของร้านมินิมาร์ตย่านสนามบินน้ำ ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงนี้ลูกค้าบ่นเรื่องสินค้าปริมาณหรือขนาดลดลงอย่างมาก ทั้งของกินของใช้ นมผง แชมพูสระผม ผงซักฟอก โดยยกตัวอย่างนมผงเด็กทารกที่ตั้งราคาขายเท่าเดิม แต่ปริมาณบรรจุลดลงจากเดิม ถุงละ 1,000 มิลลิกรัม ลดลงมาเหลือถุงละ 800-750 มิลลิกรัม และล่าสุดเหลือถุงละ 650-600 มิลลิกรัม เพื่อให้นมยี่ห้อดังกล่าวยังสามารถขายราคาเดิมได้ แต่ผู้ซื้อรู้สึกได้ว่าต้องซื้อนมผงเด็กถี่ขึ้น จากซื้อ 1 ครั้งใช้ได้ 1 สัปดาห์ เหลือเพียงใช้ได้ 3-4 วันก็ต้องซื้อถุงใหม่

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า การปรับปริมาณบรรจุสินค้าเพื่อคงราคาขายเท่าเดิม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นับแต่ที่ผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลก เผชิญกับปัญหาต้นทุนการขนส่งสินค้าที่สูงขึ้น จากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สิ่งนี้ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเจ้าของสินค้าทุกรายที่ต้องรับภาระดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การลดปริมาณหรือขนาดลง ทางผู้ประกอบการก็มีหลายวิธีเลือกที่จะปรับลดโดยไม่ผิดกฎหมาย และไม่ทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน แม้นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน จะออกมาบอกว่า หากสินค้าในบัญชีควบคุมกว่า 200 รายการ ลดปริมาณลงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แม้จะขายราคาเดิม ก็ผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ ไม่เกิน 1.4 แสนบาท

ทั้งนี้ ผู้ผลิตสินค้าหรือบริการ มีทางเลี่ยงที่จะลดปริมาณบรรจุด้วยการปรับสูตรใหม่ในขนาดขวดบรรจุหรือถุง บรรจุเท่าเดิม เท่านี้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการก็ไม่สามารถจำคุกหรือปรับได้ เพราะสินค้าที่มีการเปลี่ยนสี-เปลี่ยนกลิ่น-เปลี่ยนรสชาติใหม่ในตัวสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์จะกลายเป็นสินค้าใหม่ ขณะที่สินค้าประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อออกรุ่นใหม่ ก็สามารถตั้งราคาขายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย

ส่วนบรรจุภัณฑ์ ขนาดของขวด กล่องหรือถุง ยังคงขนาดเดิม เพื่อให้เมื่อสินค้าวางบนชั้นขายสินค้าแล้ว ยังมีขนาดของบรรจุภัณฑ์ขวดกล่องหรือถุง ยังดูใหญ่สามารถแข่งขันบนชั้นวางของได้ แต่เปลี่ยนตัวเลขระบุที่พิมพ์อยู่ข้างบรรจุภัณฑ์ลง เพื่อให้ยังขายราคาเดิมได้

ดังนั้น ต่อให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จะออกตรวจราคาสินค้าทุกสัปดาห์อย่างที่ปฏิบัติกันมา ก็ไม่สามารถจับปรับสินค้าที่ขึ้นราคาได้ เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นแปลงร่างกลายเป็นสินค้าใหม่ ที่สามารถขายราคาใหม่ได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย

กลยุทธ์ไซซิงที่เคยใช้ในการลดปริมาณหรือขนาด เพื่อให้ตั้งราคาที่ได้เปรียบในการแข่งขันได้ จึงมีประโยชน์แฝงอีกทาง กลายเป็นการปรับราคาสินค้า โดยที่รัฐไม่มีทางจับได้ไล่ทัน