เฉลิมฟันธงฝืนโหวตรธน.เพื่อไทยโดนยุบล้าน%

จาก โพสต์ทูเดย์

รองนายกฯ ระบุ เเก้รธน. รายมาตราชัวร์กว่า หากฝืนลงมาติวาระสาม เพื่อไทยโดนยุบพรรคล้านเปอร์เซ็นต์  โวลั่นยกร่างเเก้รธน.ไว้เเล้ว เสนอควบรวมศาลรธน.

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมครม.กรณีที่พรรคเพื่อไทยยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทาง การแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยกรณีนี้ไปแล้วว่าอันนี้ แล้วแต่การตัดสินใจของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและครม.หากถามตนนั้นหากยังเดินหน้าลงมติในวาระที่สามนั้นมี ปัญหาต่อมาแน่ อ่านให้ชัดว่างานนี้อย่าใช้ความรู้สึกแต่ต้องใช้ความรอบคอบและแม่นยำในข้อ กฎหมาย การที่ศาลยกคำร้องว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นการล้มล้างการปกครองนั้น เพราะว่ากระบวนการและขั้นตอนยังไม่เเล้วเสร็จหากไปดื้อดึงลงมติในวาระที่สาม จะมีคนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันทีตรงนั้นถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ รัฐบาลจะอยู่ยากเพราะหากผ่านวาระที่สามแล้วมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลจะมีคำสั่งให้ชะลอแล้วต้องเสนอต่อนายกฯในยี่สิบวัน จากนั้นนายกฯต้องกราบบังคมทูลฯ นายกฯจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และตนยังไม่เห็นว่ามีความจำเป็นใดๆที่ต้องดื้อดึง อยากให้รัฐบาลพังหรือ

รองนายกฯกล่าวว่า เมื่อศาลบอกมาแบบนี้ ก็ควรแก้ไขรายมาตราไปสิหากผ่านวาระที่สามนั้นมันจะเร็วตรงไหนเพราะต้องไป ตั้งสสร.ขึ้นมายกร่างและต้องประชามติ มันเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ลำบาก หากคราวแรกนั้นบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรารัฐบาลก็จะกลายเป็นเผด็จการแต่ เมื่อศาลชี้แนะแบบนี้ตนมองว่าเหมาะสมแล้วจะรีบร้อนทำไม เมื่อถามว่าแสดงว่าหากลงมติในวาระที่สามไปนั้นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะโดนยุบ พรรคมีสูงหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า”ล้านเปอร์เซ็นต์”

“แน่นอน รัฐบาลก็เอวัง  ล้านเปอร์เซ็นต์ยุบพรรค ตนเป็นคนชัดเจนอยู่แล้ว หากจะโหวตวาระสามต่อ  โดนยุบพรรคแน่ แต่ตนไม่ร่วมโหวต  และไม่มีมาตรการอื่นเพียงแค่ไม่ไปโหวตก็พอแล้ว เพราะตนตัวคนเดียว และไม่กลัวการโดนปรับออกจากครม.เพราะความกลัวทำให้เสื่อม”  รองนายกฯระบุ

เมื่อถามว่านายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าควรถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกจากวาระการประชุมที่ค้างอยู่  รองนายกฯกล่าวว่าแล้วแต่มติพรรคเพื่อไทย แต่ก่อนหน้านี้ตนไม่ค่อยแสดงความเห็นคัดค้านใครแต่จากนี้ไปตนเห็นแก่รัฐบาล และส่วนรวมรวมทั้งบ้านเมืองว่าจะทำให้ยุ่งยากทำไมและจำเป็นใดๆที่ต้องดื้อ ดึง การประชุมพรรคเพื่อไทยครั้งล่าสุดนั้นตนไม่ได้เข้าประชุมแต่ได้ทำบันทึกความ เห็นของตนสามหน้าเสนอเข้าไป เชื่อตนเถอะว่าทำไปอย่างนั้น สุดท้ายก็เสนอแก้ไขรายมาตราเพราะไปทางอื่นไม่ได้หรอกและการประชุมครม.วันนี้ คงไม่เสนอความเห็นใดๆ ส่วนแนวทางการแก้ไขรายมาตรานั้นตนยกร่างไว้แล้วโดยใช้เวลาสองชั่วโมงเมื่อ วันที่14ก.ค.เรียบร้อยแล้วและเสนอต่อพรรคเพื่อไทยไปแล้ว

เมื่อถามว่านปช.จะมีปัญหาในเรื่องนี้ตามมาหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่าก็ต้องทำความเข้าใจกันมันไม่มีปัญหาหรอก เพราะควรไปบอกว่าการแก้ไขรายมาตราเร็วกว่าและกำหนดทิศทางได้ แต่หากมีสสร.นั้นจะกำหนดทิศทางไม่ได้  เมื่อถามว่าการยกร่างของรองนายกฯนั้นมีเรื่องที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญหรือ ไม่ รองนายกฯกล่าวว่า มี  แต่ไม่ใช้คำว่ายุบศาลรัฐธรรมนูญ  แต่ใช้คำว่าควบรวมแทน ศาลรัฐธรรมนูญนั้นยังมีอยู่และเก่งกาจสามารถดังเดิม แต่ไปควบรวม   ศาลรัฐธรรมนูญยังมีอำนาจอยู่บนความถูกต้องชอบธรรมเหมือนทุกคน  มีการถ่วงดุล ตรวจสอบและมีกฎเกณฑ์กติกา แต่อิทธิพลเฉพาะกลุ่มจะมีเหนือบ้านเมืองนั้นไม่ได้  แต่ยังไม่ขอบอกรายละเอียดและอธิบาย เพราะยังไม่มีใครใช้ตนในเรื่องนี้ หากมีใครใช้บริการตนในเรื่องนี้ยืนยันว่าอธิบายต่อสังคมได้แบบไม่มีใครโต้ แย้ง   ประชาชนทั้งประเทศจะเห็นด้วยเพราะไม่มีใครยอมรับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีอิทธิพล ที่ทำสิ่งใดโดยไม่มีการตรวจสอบและไม่มีการคานอำนาจ

เต้นหนุนเดินหน้าแก้รธน.วาระ3

จาก โพสต์ทูเดย์

ณัฐวุฒิ เผย คำชี้ขาดศาลรธน. ไม่ผูกพันองค์กร ควรเดินหน้าวาระ3 แต่ต้องรัดกุม เชื่อมีคนจ้องล้มรัฐบาล

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คำวินิฉัยของศาลไม่ผูกพันองค์กรด้วยกันซึ่งหากย้อนไปดู รัฐธรรมนูญมาตรา 63 ปี 40 ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่มีอำนาจเหมือนมาตรา 68 ปี 50 กลับมีคำวินิจฉัยที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้เห็นว่า คำวินิจฉัยเป็นการรัดกุมนิติบัญญัติที่จะสร้างให้เกิดปัญหาใหม่ในอนาคต และกลายเป็นการขยายขอบเขตอำนาจของศาลทำให้กลไกบิดเบี้ยว โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรนำเสนอไปตามระบอบประชาธิปไตยที่ต้องดำเนินการโหวตวาระ 3 ต่อไป เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถเดินหน้าปกป้องอธิปไตยได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็มีความคิดเห็นของหลายฝ่ายทั้ง พรรคเพื่อไทย และวุฒิสมาชิก ก็มีความเห็นต่างกันไป เนื่องจากไม่มั่นใจว่า จะมีผลกระทบอะไรจากคำวินิจฉัย และคำวินิจฉัยนั้น จะเป็นหลุมพรางหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าไปทิศทางใดเชื่อว่า มีกลุ่มคนที่รอโค่นล้มรัฐบาลอยู่ ดังนั้นจึงต้องปกป้องอย่างดี และเชื่อว่า รัฐบาลหลุดพ้นจากอันตรายมาได้เพราะนายกรัฐมนตรี อยู่เหนือความขัดแย้ง และเดินหน้าทำงานตามนโยบาย โดยที่ประชาชนให้ความสนับสนุน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หากสมาชิกรัฐสภาไม่ออกมาทักท้วงในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้อำนาจของฝ่ายนิติบัญัติ และอำนาจของประชาชนถอยหลังลงไป ตนจึงเห็นว่า จะต้องดำเนินการในการลงมติวาระ 3 ต่อไปซึ่งตนก็พร้อมแสดงเหตุผลเพื่อสร้างความเข้าใจ ส่วนประชาชน และพรรคเพื่อไทย จะเห็นอย่างไรต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง การตัดสินใจเดินหน้าต่อไปหลายคนอาจไม่มั่นใจ เพราะอาจจะเป็นกับดักหลุมพรางได้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ได้เป็นรัฐบาลเพราะนายกรัฐมนตรีเอาตัวเองอยู่เหนือ ความขัดแย้ง และเดินหน้าทำงาน

สภาสั่งลุยโหวตแก้รธน.วาระ 3

จาก โพสต์ทูเดย์

สภาเมินประชามติสั่งลุยโหวตวาระ 3 แจงแก้ 291 มาตราเดียวไม่ล้มทั้งฉบับ เปิดช่องม.151หากพระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบ

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงหลังเรียกประชุมสมาชิกรัฐสภา 416 คนร่วมหารือกรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ วินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ล้มล้างการปกครองว่า สมาชิกรัฐสภาทั้ง สส.และ สว.ที่ร่วมประชุมเห็นพ้องกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พิจารณาค้างอยู่ในวาระที่ 2 สามารถเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ได้ แต่ต้องขอมติของสมาชิกรัฐสภาโดยการเรียกตามลำดับรายชื่อก่อนว่าจะเดินหน้าลง มติวาระ 3 หรือไม่ และให้เป็นอำนาจของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาในการกำหนดวันและเวลาที่จะมีการลงมติ คาดว่าจะพิจารณาเป็นวาระแรกทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภา จะให้ล่าช้าไม่ได้

นายเจริญ กล่าวต่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่สามารถกระทำได้ หากไม่มีการจัดทำประชามติจากประชาชน และให้แก้ไขได้เป็นรายมาตรา โดยที่ประชุมวันนี้พิจารณาแล้วยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 นั้นยังเป็นเพียงการแก้ไขรายมาตรา ยังไม่ได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งฉบับ ดังนั้นเป็นอำนาจโดยชอบธรรมของรัฐสภาที่จะลงมติวาระ 3 โดยไม่ต้องจัดทำประชามติ 

อย่างไรก็ตามเห็นว่ามติในที่ประชุมวันนี้จะไม่ขัดแย้งกับมติของพรรคเพื่อ ไทยที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าให้รอคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐ ธรรมนูญ เพราะมติของพรรคเป็นคนละส่วนกับมติของสมาชิกรัฐสภา และได้ประสานให้ตัวแทนของแต่ละพรรคไปชี้แจงพรรคของตนเองแล้ว   

“ในกรณีที่สมาชิกรัฐสภาโหวตไม่เห็นด้วยให้ลงมติวาระ 3 ต้องให้คำตอบได้ด้วยว่าจะให้สภาเดินหน้าอย่างไร จะโหวตไม่เอาแล้วถอนร่างไม่ได้ และหากเลือกที่จะให้จัดทำประชามติก่อนลงมติในวาระ 3 ก็ต้องประสานรัฐบาลดำเนินการจัดทำประชามติต่อไป” นายเจริญกล่าว 

นายเจริญ กล่าวอีกว่า หากเสียงในรัฐสภาลงมติในวาระ 3 แล้วเสร็จต้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าภายใน 20 วัน เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา แต่หากพระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบก็ต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 คือ ให้รัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด

“ไม่กังวลว่าหากดำเนินการลงมติวาระ 3 จะทำให้เกิดการยื่นคำร้องและเกิดเป็นความขัดแย้งระลอกใหม่  เพราะขณะนี้ได้ดำเนินการโดยยึดหลักการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว คงจะไปห้ามสิทธิผู้ที่ต้องการจะร้องไม่ได้ แต่กลัวจะไม่ร้องมากกว่า” นายเจริญกล่าวทิ้งท้าย

เฉลิมอัดกลับคณิตชอบพูดจนบ้านเมืองวุ่นวาย

จาก โพสต์ทูเดย์

เฉลิม โต้ คณิต เรื่องฆ่าตัดตอน อัดกลับคนในห้องเเอร์ชอบคิดเเละพูดจนบ้านเมืองวุ่นวาย

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าประชุมครม.กรณีนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่ง ชาติ(คอป.)ในฐานะอดีตประธานคตน.ระบุว่า รองนายกฯบิดเบือนความจริงในคดีการฆ่าตัดตอนยุคในสงครามยาเสพติดยุครัฐบาลไทย รักไทยนั้นมีอยู่จริงว่า ตนอ่านข่าวจากนสพ.แล้วไม่เข้าใจเพราะนายคณิตใช้ศัพท์แสงสูงไปแต่ตนความรู้ น้อยอ่านแล้วไม่เข้าใจแต่ยืนยันในสิ่งที่ตนเข้าใจว่ามีการตายจริงแต่รัฐบาล ไม่ได้สั่งและพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ อดีต รองผบ.ตร.ได้สอบสวนแล้วทำรายงานลการสอบสวนมาเสนอตนว่าไม่มีการฆ่าตัดตอน หากนายคณิตยังคิดว่ามีคนสั่งฆ่าตัดตอนก็มาร้องทุกข์ดำเนินคดีได้ตนจะทำให้ แต่ตนยืนยันว่าเข้าใจแบบนั้น หากตนเข้าใจผิดก็ขอโทษนายคณิตด้วย

เมื่อถามว่าสิ่งที่นายคณิตระบุไว้นั้นคล้ายว่าตอบโต้สิ่งที่รองนายกฯระบุ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าตนทำงานให้บ้านเมืองแบบนักปฏิบัติ และตนไม่ใช่นักคิด นักเขียน นักเพ้อฝัน ยืนยันไม่มีการฆ่าตัดตอนของเจ้าหน้าที่  ล่าสุดหากขบวนการค้ายาเสพติดที่เสียชีวิตเจ็ดนายที่อ.แม่สาย จ.เชียงรายไม่ลงมือก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงไม่ป้องกันตัว แต่คนที่อยู่ในห้องแอร์ไม่รู้ แต่ชอบพูดและคิดที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แต่ตนลงพื้นที่ภาคเหนือกว่าสิบครั้งแล้วงานจึงเดินหน้า และตนคิดว่าบางครั้งนั้นความเห็นของนักปราชญ์ราชบัณฑิตเป็นเรื่องที่ดีแต่ สิ่งใดที่เห็นว่าทำไม่ได้นั้นตนไม่รับฟังแต่จะยึดกฎหมายเป็นหลัก

สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน