สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อ่านคำต่อคำ นายกฯปู กิตติรัตน์ ชัชชาติ แถลงครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน

จากประชาชาติธุรกิจ

หมายเหตุ คำแถลงอย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติให้ อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ของประเทศพ.ศ....



นางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับ การขยายตัวของเมืองและการเพิ่มขึ้นของประชากรที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรอง รับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อการเข้าสู่ประชาคมอา เซียน รัฐบาลจึงกำหนดให้มียุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของ ประเทศที่ตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมและสอด คล้องกับนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาและยุทธศาสตร์ของประเทศประกอบด้วย3 ยุทธศาสตร์หลัก
ได้แก่
(1) ยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า
(2) ยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่ง ไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคทั่วประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและ
(3)ยุทธศาสตร์พัฒนาและปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อยกระดับความคล่องตัว ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะเป็นการอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมแก่ประชาชน ทั้งในพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ รวมทั้งเป็นการเชื่อมโยงฐานการผลิตกับฐานการส่งออกระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่ง และเป็นฐานการเชื่อมโยงการขนส่งและเครือข่ายในระดับภูมิภาค อันจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการระบบการขนส่ง ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทาง   ของประชาชน

เนื่องจากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ขนาดใหญ่จำเป็นต้องดำเนินการให้มีความเชื่อมโยงกันและต้องดำเนินการติดต่อ กันหลายปีจนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการโดยต้องมี  แหล่งเงินในการดำเนินโครงการ อย่างแน่นอนสอดคล้องกับระยะเวลาของโครงการและเพื่อเป็นการเสริมสร้างความ มั่นใจของภาคเอกชนที่จะเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ที่ชัดเจนและมีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้ภาคเอกชน สามารถเตรียมพร้อมและจัดทำแผนการลงทุนของตนเองควบคู่ไปกับแนวทางการลงทุนของ รัฐบาลได้อย่างเหมาะสมรัฐบาลโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลัง(นายกิตติรัตน์ณ ระนอง) จึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อออกพระราชบัญญัติสำหรับรองรับการจัดหาแหล่ง เงิน  ในการดำเนินโครงการดังกล่าว

ดังนั้น ในวันนี้ (19 มีนาคม 2556) คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศพ.ศ.....โดยร่าง กฎหมายดังกล่าว กำหนดให้กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีสามารถกู้เงินบาทหรือ เงินตราต่างประเทศ เพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์และแผนงานที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯในวงเงินไม่ เกิน2 ล้านล้านบาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยการดำเนินโครงการภายใต้เงินกู้นี้ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการดำเนิน การซึ่งแสดงยุทธศาสตร์ แผนงาน และโครงการที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ไว้อย่างชัดเจนและแน่นอน มีกรอบแนวทางและขั้นตอนในการบริหารและดำเนินโครงการที่แสดงความรับผิดชอบและ หน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีการระดมเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการ อย่างมีวินัยภายใต้ระยะเวลาประมาณ7ปี รวมทั้งมีการกำกับ ตรวจสอบ และประเมินผลที่เข้มงวด โดยจะต้องรายงานให้รัฐสภาทราบเป็นประจำทุกปี

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่าร่างกฎหมายดังกล่าว จะช่วยให้รัฐบาลสามารถวางแผนในการหาแหล่งเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนในการวางแผนการลงทุนของตนเอง และในการดำเนินโครงการจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เนื่องจากหน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องเสนอโครงการต่อกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณเพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับความพร้อม กรอบวงเงินดำเนินการ และแผนการดำเนินงานก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติโครงการ และอนุมัติจัดสรรวงเงินกู้ รวมทั้งการที่หน่วยงานเจ้าของโครงการจะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อนเริ่มโครงการ และภายใน 120 วันหลังสิ้นปีงบประมาณ คณะรัฐมนตรีจะต้องรายงานการกู้เงิน ผลการดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินการตามแผนงานในปีงบประมาณที่ผ่านมาให้รัฐสภาทราบด้วย

สำหรับ ผลประโยชน์จากการลงทุนในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนโลจิสติกส์ลดการสูญ เสียจากการใช้น้ำมันและลดระยะเวลาการเดินทางและการขนส่งแล้ว กระทรวงการคลังคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับผลิตภัณฑ์มวล รวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) เพิ่มสูงขึ้นจากกรณีฐาน   เฉลี่ยในช่วงปี 2556 – 2563 ร้อยละ 1.0 ต่อปี มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 5 แสนตำแหน่ง โดยในช่วงแรกของ           การดำเนินโครงการอาจส่งผลให้เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจากการนำเข้าสินค้า ทุนและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นบ้างแต่ในระยะยาวจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและการ นำเข้าพลังงานซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกดุลบัญชีเดินสะพัด และลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ สำหรับในส่วนของความมั่นคงทางการคลังนั้น กระทรวงการคลังมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลัง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่าในส่วนของแผนงาน /โครงการที่จะดำเนินการภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่  (1) ยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า      ทางถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า ประกอบด้วย แผนงานพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายทางรถไฟที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นโครงข่าย การขนส่งหลักของประเทศ แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางลำน้ำและชายฝั่ง และแผนงานพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบเพื่อ เชื่อมโยงกับฐานการผลิตและฐานการส่งออกที่สำคัญของประเทศ (2) ยุทธศาสตร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ   สิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งไปสู่ ศูนย์กลางของภูมิภาคทั่วประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านประกอบด้วย แผนงานพัฒนาประตูการค้าหลักและประตูการค้าชายแดนแผนงานพัฒนาโครงข่ายเชื่อม ต่อภูมิภาค และ (3) ยุทธศาสตร์พัฒนาและปรับปรุงระบบขนส่งเพื่อยกระดับความคล่องตัว ซึ่งประกอบด้วยแผนงานพัฒนาระบบขนส่งในเขตเมือง และแผนงานพัฒนาระบบขนส่งเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจหลักภายในประเทศ

นายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปว่า “ร่างกฎหมายดังกล่าว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในเดือนมีนาคม 2556 โดยจะมีรายละเอียดโครงการภายใต้แผนงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน     ด้านคมนาคมขนส่งของประเทศประกอบการพิจารณาของรัฐสภาด้วย ทั้งนี้ คาดว่ากฎหมายจะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ก่อนปีงบประมาณ 2557”


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : อ่านคำต่อคำ  นายกฯปู  กิตติรัตน์  ชัชชาติ  แถลงครม. ผ่านร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้าน

view