สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สภาทนายจี้คสช-ออกกฎหมายล้างโกง

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ผ่านไปแล้วร่วม 3 สัปดาห์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจผ่าทางตันประเทศด้วยการยึดอำนาจรัฐประหาร และเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรม การเมือง และการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น
ปัญหาเหล่านี้ หัวหน้า คสช.ยอมรับว่า มีคนร้องเรียนเรื่องต่างๆ เข้ามาจำนวนมาก ทั้งโทรศัพท์ ทั้งคลิป ทั้งเอกสารจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เอกสารก็เต็มลิ้นชัก

หลายองค์กร หน่วยงาน ภาคเอกชน เอ็นจีโอ เริ่มมีข้อเสนอต่อ คสช. เพื่อเปลี่ยนแปลงใหญ่ในช่วง 1-2 ปีที่จะบริหารประเทศ

ล่าสุด สถาบันวิจัยและพัฒนากฎหมาย สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอให้ คสช.ออกกฎหมายบังคับการให้เป็นไปตามข้อผูกพันในฐานะที่ประเทศเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริตให้ได้ผลอย่างแท้จริงโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการแก้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติในอนุสัญญาว่าด้วยการสืบสวนสอบสวน ติดตามและริบทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพราะหากรอให้การแก้ไขกฎหมายโดยใช้ช่องทางผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติอาจล่าช้า

สภาทนายความ ให้เหตุผลที่ต้องให้ คสช.เร่งออกกฎหมายว่า เพื่อตัดตอนการคอร์รัปชั่นที่มีอยู่มากมายในขณะนี้ให้สัมฤทธิผลในการติดตามและริบทรัพย์สิน และจับตัวผู้กระทำผิดได้ทันท่วงที ซึ่งต้องใช้กฎหมายให้เด็ดขาดและรวดเร็ว เพราะในภาวะวิกฤตของประเทศมีแต่ถดถอย ตกต่ำ และเพื่อรักษาประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติ ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ที่ทุจริตต่อประเทศชาติ ไม่ว่าทั้งที่กระทำโดยตรงและโดยทางอ้อม หรือเชิงนโยบาย ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีจิตใจอำมหิต ทำร้ายประเทศชาติและประชาชน

ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายที่ชอบและเปลี่ยนภาระหน้าที่การนำสืบที่มาของทรัพย์สินให้กับผู้ที่กระทำการโดยทุจริตร่ำรวยผิดปกติ เป็นผู้ที่พิสูจน์การได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้น โดยชอบด้วยกฎหมาย และเสียภาษีอากรถูกต้อง กรณีนี้รวมถึงการแก้ไขกฎหมายภาษีอากรให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของนานาอารยประเทศ

อย่างไรก็ตาม สภาทนายความเคยชี้ประเด็นสำคัญเรื่องการกวาดล้างระบบคอร์รัปชั่น โดยออกแถลงการณ์ไว้ตั้งแต่|เมื่อเดือน มี.ค. 2550 หลังการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปี 2549 ที่ว่าประเด็นสำคัญของความไม่สงบ ความไม่เป็นธรรม และความแตกแยกอย่างรุนแรงในด้านความคิด สังคม และความเชื่อ

สืบเนื่องจากการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายที่แน่วแน่ในการแก้ไขคอร์รัปชั่นทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างทุนนิยมในการศึกษา อบรมให้มีมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม ทั้งเยาวชน ประชาชน ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะความรีบด่วนที่ต้องมีการสกัดกั้นการนำเงินคอร์รัปชั่นออกไปต่างประเทศ และการหาแหล่งข้อมูลจากต่างประเทศโดยการให้สัตยาบันสนธิสัญญาว่าด้วยการปราบปรามคอร์รัปชั่นของสหประชาชาติเพื่อให้ประเทศเป็นสมาชิกที่สมบูรณ์ สามารถขอรับและแลกเปลี่ยนข้อมูลของนักการเมืองทุกระดับ ที่ฉกฉวยผลประโยชน์ของประเทศชาติไปซุกซ่อนไว้ในกองทุน (ทรัสต์) ในรูปแบบต่างๆ ในประเทศที่เป็นดินแดนหลบเลี่ยงการตรวจสอบที่มีอยู่มากถึง 52 ประเทศ ซึ่งความจำเป็นข้อนี้ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องรีบขจัดให้สิ้น

อนึ่ง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการทุจริตเป็นความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตเป็นความตกลงระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการต่อต้านทุจริตที่เป็นสากลมีเนื้อหาครอบคลุมทุกด้านของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อันเป็นผลมาจากความพยายามของประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่จะร่วมกันแก้ปัญหาการทุจริตอย่างจริงจังและเป็นระบบ ซึ่งได้รับการรับรองโดยที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2546 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2548 ซึ่งปัจจุบัน (ณ วันที่ 13 มี.ค. 2554) อนุสัญญามีภาคีสมาชิกทั้งหมด 150 ประเทศ โดยประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาลำดับที่ 149


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สภาทนายจี้ คสช ออกกฎหมาย ล้างโกง

view