สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สอบลึกทรัพย์สิน5รมต.

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สอบลึกทรัพย์สิน5รมต. ด้านปปช.สาวโยงจำนำข้าว-ธนาคารทยอยส่งข้อมูล "หมอวรงค์"ปูดปมข้าวหายที่พิจิตร

ป.ป.ช.ตรวจสอบละเอียดยิบทรัพย์สิน "5 อดีตรัฐมนตรี" เอี่ยวปมจำนำข้าว"ยิ่งลักษณ์-นิวัฒน์ธำรง-บุญทรง-ยรรยง-ภูมิ" เผยส่วนราชการ-ธนาคาร เริ่มทยอนส่งข้อมูลให้แล้ว ประธานสอบเร่งสอบเร็ว ก่อนชี้ 2 แนวทาง "ร่ำรวยผิดปกติ-ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน" ด้าน"หม่อมหลวงปนัดดา"ลุยตรวจคลังข้าวอุดรฯ พบหาย 25 กระสอบ โพลล์ชี้ประชาชนหนุนจำกัดวาระส.ส.แค่ 2 สมัย

นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าว ของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ราย ในเชิงลึก ประกอบด้วยนางสาวยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการที่ป.ป.ช.ประสานขอข้อมูลไปยังธนาคาร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกำลังมีการทยอยส่งข้อมูลเข้ามา ยังไม่ครบถ้วน โดยเป็นการตรวจสอบในเชิงลึกทั้ง 5 รัฐมนตรี ไม่ได้ตรวจเฉพาะใครคนใดคนหนึ่ง

"ป.ป.ช.ขอข้อมูลไปก่อน แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ว่าจากข้อมูลที่เราได้มานั้นจะต้องไปอย่างไรต่อ ตอนนี้ธนาคารที่ไม่พบข้อมูล สิ่งผิดปกติก็ตอบมาแล้ว เพราะง่ายหน่อย ส่วนที่ช้าก็คือหากเขาเป็นลูกค้าธนาคารนั้นๆ แล้วมีข้อมูลที่ขอไป ก็ทยอยส่งเอกสารมาให้ป.ป.ช. ทั้งนี้การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินธรรมดาก็ดูตัวเลขที่เปรียบเทียบธรรมดาๆ แต่ตรวจเชิงลึก คือต้องนำตัวเลขทั้งหมดมาเปรียบเทียบ ตรวจความเคลื่อนไหวทั้งหมดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง ทุกรายการ รายการไหนที่เราสงสัยก็จะเจาะเข้าไปว่าจุดนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ดูหมดไปถึงคนรอบข้างที่ถูกตรวจสอบตามกฎหมายอยู่แล้ว เช่น คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ"

นายวรวิทย์ กล่าวว่า ถ้าพยานหลักฐานมีความเชื่อมโยงไปถึงใครที่มีความเกี่ยวข้องก็สามารถตรวจสอบได้ หรือถ้ามีข้อมูลว่ามีใครเป็นนอมินีในเรื่องนั้นก็ตรวจสอบลงไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ตรวจพบความผิดปกติในส่วนใด ของใครบ้าง นายวรวิทย์ กล่าวว่า ตนเองยังไม่มีข้อมูล เพราะคณะทำงานเพิ่งเริ่มดำเนินการ คณะอนุกรรมการประชุมไปแล้วประมาณ 2 ครั้ง เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะตรวจสอบได้เร็วหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า จะเร็วหรือช้าก็คงอยู่ที่ข้อมูลที่ขอไป หากธนาคาร ส่วนราชการ ส่งข้อมูลมาให้โดยเร็วก็สามารถดำเนินการได้เร็ว ซึ่งก็เร่งรัดอยู่แล้ว ได้รับความร่วมมือด้วยดี คงไม่ช้า เพราะเป็นการตรวจสอบเพียง 5 รายเท่านั้น จำนวนไม่มาก

ด้านนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กล่าวว่า ได้มอบนโยบายอยู่แล้วว่าอย่างน้อยประชุมกันเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อประมวลข้อมูลว่าถึงไหนอย่างไร ติดตามความคืบหน้าการทำงานกัน เป็นการเร่งรัดการทำงานของประธานอนุกรรมการอยู่แล้ว จากนั้นเมื่อคณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลได้ก็ต้องนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อพิจารณา

"หากพบว่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือพบว่าร่ำรวยผิดปกติก็ต้องส่งอัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ขณะเดียวกันจะมีเรื่องของการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดบัญชีทรัพย์สิน อันนี้ป.ป.ช.ยื่นฟ้องร้องเองต่อศาลฎีกาได้"

แฉปมข้าวหายที่พิจิตรโยง "เสี่ยเปี๋ยง-เสี่ยเปี๊ยก

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวเพื่อตรวจสอบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบโกดังข้าวในช่วงสัปดาห์เศษที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งข้าวเน่า ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเหลือง ข้าวป่น มีการยัดไส้ นอกจากเอาปลายข้าวมายัดไส้ใส่ข้าว 5% แล้ว ยังพบข้าวสารเจ้าปนข้าวเหนียว ข้าวสารปนข้าวหอมมะลิ ที่เลวร้ายยังพบนั่งร้านยัดไส้กลางกองข้าว และที่สำคัญคือข้าวหาย ซึ่งเกิดขึ้นทุกพื้นที่และทุกภาคทั่วประเทศ

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนมีข้อน่าสังเกตคือ ไซโลเคทีบี จ.พิจิตร นอกจากข้าวที่อยู่ในไซโลจะเสื่อมสภาพ เป็นข้าวเหลือง สิ่งที่เลวร้ายสังเกตว่า ปริมาณข้าวที่หายในช่วงตรวจ รวม 12 ไซโล มีปริมาณข้าวที่ขาดหายไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้งไว้ จำนวน 44,849 ตัน หรือ 448,490 กระสอบ รวมแล้วตอนนี้หายไป 4 แสนกว่ากระสอบ ซึ่งยังขาดอีก 5 ไซโลจะต้องตรวจ เฉพาะข้าวหายคิดเป็นความเสียหายตามต้นทุนนับพันล้านบาท นี่ยังไม่รวมข้าวเสื่อม ค่าเช่าที่แพงกว่าปกติ และสิ่งที่ตรวจไม่ได้อีกมาก

"คำถามที่ถามคือ ทำไมเคทีบีไซโลจึงมีทั้งข้าวเสื่อมและข้าวหายมาก เพราะเคทีบี คือ บริษัทเพรซิเดนท์อะกริเก่านั่นเอง ที่เป็นของ เสี่ยเปี๋ยง ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกธนาคารยึด แต่มีคนแจ้งว่า สงสัยมีการซื้อคืนไปแล้ว โดยผู้ที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ คือ เสี่ยเปี๊ยก จากลพบุรี (ผู้ใกล้ชิดเสี่ยเปี๋ยง) คนที่ซื้อข้าวจากรัฐบาล 5,700 บาทต่อตัน และไปขายราคา 12,000 บาทต่อตัน และเป็นผู้มีส่วนทำข้าวถุงขายคนจนสมัยรัฐบาล นางสางยิ่งลักษณ์ แต่หาข้าวถุงไม่ค่อยเจอ สรุปแล้วก็เป็นพวกขาใหญ่ ที่ใกล้ชิดนายใหญ่ และเจ๊ ด."

อดีตส.ส.พิษณุโลก กล่าวอีกว่า ต้องจับตาดูให้ดีว่า เฉพาะที่เคทีบีไซโลแห่งเดียว ตรวจเสร็จแล้วจะมีข้าวหาย ข้าวเสื่อมรวมทั้งหมดเท่าไหร่ โดยในส่วนนี้เป็นขั้นตอนเก็บข้าว เป็นทุจริตกลางน้ำไม่เกี่ยวกับขั้นตอนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ซึ่งเป็นการระบายข้าว เป็นทุจริตปลายน้ำ เท่ากับโกงทั้งกลางน้ำและปลายน้ำ งานนี้ถ้า คสช.เอาจริงเอาจัง การตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศ รับรองคุกไม่พอใส่คนโกงแน่นอน

"ปนัดดา"ตรวจคลังข้าวอุดรฯพบหาย25กระสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ ที่โรงสีอุดรประเสริฐผล อ.เมือง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ พร้อมด้วยนายวีรยุทธ สุขเจริญ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าฯ อุดรธานี พ.อ.โสภณ จันทร์เปรม รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 24 นายนคร บุตรีวงศ์ การค้าภายในจังหวัด นายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่จาก อคส.อุดรธานี ธ.ก.ส.อุดรธานี กำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 และตัวแทนจากกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมตรวจสอบคลังสินค้ากลางที่เก็บข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวฤดูการผลิตปี 56/57 ของโรงสีอุดรประเสริฐผล หลังที่ 3

โดยคลังสินค้ากลางหลังนี้เคยมีกรณีข้าวสารเหนียวจำนวนกว่า 3,400 ตัน ถูกส่งไปโรงสีโชควรลักษณ์รุ่งเรืองกิจ จ.ลพบุรี เพื่อจัดทำเป็นข้าวถุงได้หายระหว่างทาง ซึ่งขณะนี้คลังสินค้ากลางหลังที่ 3 นี้ ใช้เก็บปลายข้าวหอมมะลิ จำนวน 64,411 กระสอบ และปลายข้าวเหนียว จำนวน 1,960 กระสอบ แต่คลังสินค้านี้ครบกำหนดต้องรมยา แต่ต้องเลื่อนออกไปเพื่อตรวจนับ

ต่อมา ม.ล.ปนัดดา และคณะ ได้ขึ้นไปตรวจบนกองกระสอบข้าว โดยให้รถโฟล์คลิฟต์ยกขึ้นไปข้างบน การตรวจนับพบว่ามีกระสอบปลายข้าวขาดหายไป 25 กระสอบ ซึ่งต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 5% ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ จึงทำบันทึกไว้ท้ายรายงาน ส่วนการตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยทหารตัวแทนจาก ทภ.2 ใช้หลาวเหล็กสุ่มแทงกระสอบข้าว เก็บตัวอย่างปลายข้าวไปตรวจอีกครั้ง ซึ่งจากการสังเกตด้วยสายตามีมอดอยู่ปลายข้าวทุกกระสอบ

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า การตรวจสอบข้าวสารคงเหลือของรัฐ ยังไม่พบความผิดปกติ ซึ่งที่ผ่านมาจากการเข้าตรวจสอบคลังสินค้ากลางทั่วประเทศจะเป็นการเก็บข้อมูลไว้ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ว่าที่จุดใดพบปัญหาอะไรบ้าง เพื่อให้เป็นภาพใหญ่ภาพรวมทั่วประเทศ ส่วนการตรวจคุณภาพข้าวจะให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการตรวจสอบนำรวมเสนอเป็นข้อมูลให้คณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง

โพลล์ชี้ปชช.หนุนจำกัดวาระส.ส.2สมัย

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ข้อเสนอของ กกต.ต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง และที่มาของ ส.ส. และ ส.ว.” ที่ได้เสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.ที่ผ่านมา จากประชาชนทั่วประเทศ 1,247 ตัวอย่าง

เมื่อถามถึงข้อเสนอของ กกต.ที่เสนอให้เปลี่ยนระบบการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จากระบบเขตเดียวเบอร์เดียว เป็นระบบเขตใหญ่หลายเบอร์ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.79 เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 26.70 ระบุว่าไม่เห็นด้วย และเมื่อถามถึงข้อเสนอให้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ควรมาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.60 ระบุว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว ร้อยละ 12.11 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 0.08 ระบุว่า ควรยกเลิก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต.ที่เสนอให้ ส.ส.มีวาระในการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.69 ระบุว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมาร้อยละ 24.14 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 0.40 ระบุว่าควรกำหนดให้น้อยกว่านี้ หรือไม่เกิน 1 วาระ และเมื่อถามถึงข้อเสนอที่ว่าหากมีการยุบสภาควรให้ปลัดกระทรวง ทบวง กรม รักษาการแทนคณะรัฐมนตรี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 66.00 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 25.10 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย

ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต.ที่เสนอห้ามมิให้บุพการี บุตร บุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย หรืออดีตคู่สมรส ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นส.ส. หรือ ส.ว.ในคราวหรือวาระเดียวกัน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.71 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมาร้อยละ 34.48 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 0.16 ระบุว่า ควรเน้นการพิจารณาประวัติของผู้สมัครเบื้องต้น และควรกำหนดให้ครอบครัวละไม่เกิน 2 คน

จ่อหมายจับแก๊งยิงเอ็ม79ป่วนเวทีกปปส.

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเร่งติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยคดีสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ว่า ได้ให้ชุดสืบสวนเฝ้าจับตากลุ่มผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าจะมีความเชื่อมโยงกับหลายเหตุการณ์ เช่น คดียิงลูกระเบิดจากเครื่องยิงเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.แจ้งวัฒนะ คดียิงลูกระเบิดใส่ห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ ที่มีเด็กเสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ซึ่งวันที่ 13 ก.ค.จะรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีประมาณ 6-7 คน

โดยพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้าย จะมีผู้จัดหาอาวุธสงคราม ผู้ประสานงาน และผู้ที่นำอาวุธสงครามไปใช้ก่อเหตุ ทั้งหมดมีการวางแผนร่วมกัน เป็นขั้นตอนชัดเจน จากข้อมูลเชิงสืบสวน กลุ่มคนร้ายจะมีด้วยกัน 9-10 คน แต่ที่มีหลักฐานมัดตัวแล้ว มีประมาณ 6-7 คน

"ผมได้กำชับให้ชุดสืบสวนตามแกะรอยประกบ เตรียมจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก คาดว่าจะจับกุมตัวหลายคนภายในสัปดาห์นี้ โดยผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้มีความคาบเกี่ยวกับการก่อเหตุหลายจุด หลายเหตุการณ์ รวมถึงจุดบิ๊กซี ราชดำริ ที่ทำให้เด็กผู้หญิงเสียชีวิต และการก่อเหตุที่ในจุดอื่นๆ"


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : สอบลึก ทรัพย์สิน5รมต.

view