จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์
เมื่อ 2 วันก่อน ผมแวบเข้าร้านหนังสือ แวะไปที่โซนนิตยสารและหนังสือพิมพ์
หยิบนิตยสารหลายเล่มที่ไม่ได้อ่านประจำขึ้นมาอ่านเล่น ๆ
ก่อนจะซื้อจริง ๆ 3-4 เล่ม
บางเล่มซื้อเพราะอยากอ่าน แต่บางเล่มซื้อเพราะอยากรู้
อยากรู้ว่าทำไมบางจัง
บางเล่มบางจนอ่านชื่อนิตยสารที่สันหนังสือแทบไม่ออก
จากเดิมที่เคยหนาปึ้กระดับไม่กล้านอนอ่าน
ตามปกติผมจะอ่านนิตยสารประจำอยู่หลายฉบับ
เห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่อง"ความหนา" มาโดยตลอด แต่เริ่มชัดเจนมาก ๆ เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา
บางเล่มล้มหายตายจากไป
บางเล่มก็ปรับเวลาการออก เช่น จากรายสัปดาห์เป็นรายปักษ์ 15 วัน
รายปักษ์เป็นรายเดือน
และบางเล่มก็เปลี่ยนรูปแบบ จากหนังสือ "ขาย" เป็นหนังสือ "แจกฟรี"
เชื่อไหมครับว่าโมเดลธุรกิจของหนังสือพิมพ์และนิตยสารในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
หนังสือแจกฟรี ทำกำไรดีกว่าหนังสือขาย
ทั้งที่รายรับมีมาจากทางเดียว คือ "โฆษณา"
ในขณะที่หนังสือพิมพ์หรือนิตยสารทั่วไป มีรายรับ 2 ทาง คือ "ขายหนังสือ" และ "โฆษณา"
ประเด็นสำคัญของโมเดลธุรกิจนี้อยู่ที่ 1.สินค้าต่าง ๆ ไม่ได้สนใจว่าผู้บริโภคได้สิ่งพิมพ์นั้นมาด้วยวิธีการไหน
ซื้อ หรือแจกฟรี
เขาสนใจอย่างเดียวว่าปริมาณคนอ่านเยอะแค่ไหนและเป็นใคร
2.การแจกหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่สถานีรถไฟฟ้าทำให้เอเยนซี่โฆษณาและลูกค้าประกอบร่างได้ว่าคนที่เห็นโฆษณาของเขาคือใคร
คนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าคือใคร
ชัดเจนกว่าลูกค้าที่ซื้อหนังสือ
เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร
ยิ่งเป็นสื่อค่ายใหญ่ที่มี "เนื้อหา"อยู่ในมือต้นทุนด้านเนื้อหาจะต่ำมาก
เพราะมีทั้งข่าวและคอลัมน์ต่าง ๆ อยู่ในมือ ลงทุนใหม่น้อยมาก
โรงพิมพ์ก็มีอยู่แล้ว แท่นพิมพ์หนังสือพิมพ์ใช้เวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงก็พิมพ์เสร็จ
ข่าวก็สดกว่า เพราะสามารถปิดต้นฉบับหลังเที่ยงคืนได้สบาย ๆ
หนังสือพิมพ์รายวันต้องปิดต้นฉบับเร็ว เพราะต้องส่งไปขายต่างจังหวัด
ส่วนใน กทม.ก็ต้องกระจายหนังสือไปตามเอเย่นต์ และกระจายไปแผงหนังสือ ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลา
ต้องพิมพ์เสร็จก่อนเที่ยงคืน
ในขณะที่จุดกระจายหนังสือพิมพ์แจกฟรีมีแค่สถานีรถไฟฟ้าทั้งหมดในพื้นที่กทม.ขั้นตอนเดียว
ซึ่งเปิดให้บริการตอนเช้า
พิมพ์เสร็จตีสี่ยังส่งทันเลย
ค่ายบางกอกโพสต์เริ่มทำ M2Fมาได้ 4 ปีกว่า
ใครจะไปนึกว่าจะกำไรตั้งแต่ปีแรก
และกลายเป็นรายได้หลักของค่ายนี้
ตอนที่เศรษฐกิจดีสินค้าต่างๆต้องจองปกล่วงหน้าเป็นเดือน
แต่วันนี้พอขยายไปต่างจังหวัด ผมไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ของ M2F จะเป็นอย่างไร
เพราะต้นทุนการพิมพ์และการกระจายหนังสือสูงขึ้น และกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเหมือนเดิม
ส่วนทางค่าย a day สื่อที่เป็นรายได้หลักของเขาคือ a day bulletin นิตยสารแจกฟรีที่สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นนิตยสารแจกฟรีที่ประสบความสำเร็จสูงมาก
ทั้งเนื้อหาและรายได้
เขาเริ่มนิตยสารเล่มนี้ปี 2551
ประสบความสำเร็จดีมากและรายได้ดีมากจนต้องเพิ่มหัวใหม่life
และปรับ Hambuger เป็นนิตยสารแจกฟรีอีกฉบับหนึ่ง
ทีวีพูลและนิตยสารในเครือก็ปรับตัวเข้าโมเดลนี้
และคงมีอีกหลายเจ้าที่จะขยับเข้ามาในเกมนี้
ผมไม่รู้ว่าโมเดลธุรกิจหนังสือแจกฟรีจะยังคงเซ็กซี่ต่อไปได้อีกกี่ปี
แต่ถือเป็นทางสายที่สิ่งพิมพ์หลายค่ายกำลังเลือกเดิน
เหมือนเป็น "แอ่งน้ำ" สุดท้ายที่มองเห็น
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน