จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

        ป.ป.ช.ฟันอาญาส่งยึดทรัพย์ ผศ.ดร.สถาบันดังย่านสามย่าน อาญา 4 กระทง อดีต หน.ทีมออกข้อสอบเท็จ-นายหน้าขบวนการโกงสอบพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม พ่วง 2 นายก อบต. -เมียนายก อบต.-ครูพละจ.ร้อยเอ็ด ตัวกลางเรียกรับเงิน พร้อม 13 ผู้สอบที่ได้ขึ้นบัญชี เผยพบหลักฐานชัดจ่าย 6 แสนต่อหัว ให้ อบต.เขวาไร่ และ อบต.หนองเรือ อ.นาเชือก 
       
       วันนี้ (27 ก.พ.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 8/2560 เรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานส่วนบุคคลท้องถิ่น เพื่อมาแก้ปัญหาการจัดสบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ทั้งนี้ สาเหตุที่มีคำสั่งดังกล่าวเนื่องจาก คสช.พบว่ามีนักวิชาการระดับสูงในมหาวิทยาลัยชื่อดังไปเป็นประธานออกข้อสอบแล้วไปเรียกรับเงิน ทำนองเดียวกันมาตรฐานข้อสอบบางพื้นที่ก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะหานักวิชาการที่จะออกข้อสอบตามมาตรฐานไม่ได้ บางทีเอาครูพละ เอาครูประถม ครูมัธยมมาออกข้อสอบ อีกทั้งมีความสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะแยกสอบตามพื้นที่ต่างๆ ไม่พร้อมกัน
       
       ล่าสุด คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดต่อผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ทั้งนี้ ตามที่มีการกล่าวหาร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 31 แห่ง ซึ่งดำเนินการจัดสอบโดยมหาวิทยาลัย 2 แห่ง แห่งแรกดำเนินการจัดสอบ 19 อบต. และแห่งที่ 2 ดำเนินการจัดสอบ 12 อบต. มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตในการสอบ มีการปลอมเอกสารผลคะแนน และร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบเพื่อช่วยเหลือให้สอบได้นั้น
       
       คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไต่สวนโดยแยกเป็น 2 เรื่องตามกลุ่มของมหาวิทยาลัยที่จัดสอบ เรื่องแรก 19 อบต. และเรื่องที่สอง 12 อบต.
       
       
       หลักฐานจ่าย 6 แสนต่อตัว ให้ อบต.เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม
       
       ในการนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้การไต่สวนข้อเท็จจริงในกรณีของ อบต. เขวาไร่ อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม หนึ่งใน อบต.ที่ถูกกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มีผู้สอบแข่งขันได้รับการขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ของ อบต.เขวาไร่ จำนวน 15 คน ในจำนวนนี้ปรากฏว่ามีผู้สอบแข่งขันได้จริงเพียงคนเดียว ส่วนที่เหลือสอบไม่ผ่าน แต่ได้รับความช่วยเหลือจากนายก อบต. และผู้ดำเนินการจัดสอบ โดยจัดทำผลคะแนนเป็นเท็จว่าสอบได้ โดยมีผู้ที่ได้รับการขึ้นบัญชีรายหนึ่งให้การรับสารภาพว่าได้จ่ายเงินผ่านนายหน้าให้แก่ผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้อง จำนวน 600,000 บาท คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว มีมติชี้มูลความผิด ดังนี้
       
       1. ชี้มูลความผิด นายสมบูรณ์ นาเพีย ในฐานะนายก อบต.เขวาไร่ อ.นาเชือก และในฐานะคณะกรรมการดำเนินการ สอบแข่งขัน และพันจ่าเอก คมสันต์ บุญศร นายก อบต.หนองเรือ อ.นาเชือก ในฐานะคณะกรรมการดำเนินการ สอบแข่งขัน ร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ติดต่อผู้ช่วยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธ์ พนักงานมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการ จัดสอบ ให้จัดทำผลคะแนนสอบอันเป็นเท็จและร่วมกันจ่ายเงินให้แก่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธ์ เป็นค่าจัดทำผลคะแนนอันเป็นเท็จดังกล่าว แล้วร่วมกันจัดทำและรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการสอบแข่งขันอันเป็นเท็จ แล้วส่งเอกสารการประชุมพิจารณาอันเป็นเท็จให้คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดมหาสารคาม (ก.อบต.จังหวัด) ให้ความเห็นชอบ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบมาตรา 83 และมีมูลให้ต้องถอดถอนออกจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การ บริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
       
       
       ฟัน 4 กระทง คดีอาญา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หน.ทีมออกข้อสอบเท็จ-นายหน้าขบวนการโกง
       
       2. ชี้มูลความผิด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธ์ พนักงานมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการจัดสอบ ในฐานะเป็น กรรมการออกข้อสอบ กรรมการคัดเลือกข้อสอบ กรรมการตรวจข้อสอบ กรรมการประมวลผลคะแนน และเป็นหัวหน้า คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันได้จัดทำผลคะแนนสอบภาค ก และภาค ข อันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้สมัครสอบบางรายให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งหรือขึ้นบัญชี ทั้งๆ ที่บุคคลดังกล่าวสอบไม่ผ่าน โดยเรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทน
       
       มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบ มาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 รวมทั้งมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
       
       3. ชี้มูลความผิด นางสมจิตร บุญศร รองปลัด อบต.หนองเรือ อ.นาเชือก ภรรยาของพันจ่าเอก คมสันต์ บุญศร นายก อบต.หนองเรือ ในขณะนั้น เป็นผู้นำเงินมาให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อร่าม ศิริพันธ์ เพื่อดำเนินการจัดทำผลคะแนนสอบ อันเป็นเท็จ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 162(1), (4) ประกอบมาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
       
       
       ฟันอาญา-ยึดทรัพย์ตัวกลางเรียกรับเงิน-13 ผู้สอบที่ได้ขึ้นบัญชี
       
       4. ชี้มูลความผิด นางดอกไม้ หนูยอด ครู (คศ. 1) เทศบาลตำบลดงสิงห์ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เป็นตัวกลางเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบให้กับผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 162(1), (4) ประกอบมาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
       
       5. ชี้มูลความผิดผู้ได้รับการขึ้นบัญชี ประกอบด้วย นายกิติศักดิ์ สุขกำเนิด, นายชูชาติ ทิมกลางดอน, นายอำพล มากระจันทร์, นายธีรเชษฐ์ พลสอน, นางนิตยา สีสา, สิบเอกสุนันท์ บุญตาแสง, นายสมพงษ์ มณีวัฒน์, นายวิสูติ เทียงคาม, นางปุณยนุช อรัญเสน, นายชาญณรงค์ สมแพง, นางสาวสุจิตรา ภูวงศ์, นางสาวหนูจีน แก้วลาด, และนางสาวอรัญณีย์ ภารเจิม ได้ร่วมทุจริตในการสอบครั้งนี้กับนายสมบูรณ์ นาเพีย นายก อบต. เขวาไร่ พันจ่าเอก คมสันต์ บุญศร นายก อบต. หนองเรือ และคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขัน มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
       
       
       ชง อสส.-ปปง.ฟันอาญา-อายัด/ยึดทรัพย์สินแก๊งทุจริตสอบ จ่อฟัน อบต.อื่นเพิ่ม
       
       มีรายงานว่า ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือส่งรายงานการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญา และส่งไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้ถูกกล่าวหาข้างต้น แล้วแต่กรณี
       
       นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการยึดหรือและอายัดทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งส่งเรื่องให้สำนักมาตรการป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเสนอแนวทางหรือมาตรการที่จะป้องกันมิให้เกิดการทุจริตเกี่ยวกับการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนตำบลในโอกาสต่อไป
       
       สำหรับองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งอื่นที่อยู่ระหว่างการไต่สวน คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะได้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและจะได้แถลงข่าวให้สื่อมวลชนให้ทราบต่อไป
       
       
       คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สั่งสอบ แต่เรื่องเงียบ
       
       มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้นมีคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 1/2559 ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ ผศ.ดร.อร่าม ศิริพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมามหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาทันที และยังอยู่ระหว่างดำเนินการในกรณีนี้อยู่ ขณะที่ก่อนหน้านั้นมีทีท่าว่าสถาบันจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ
       
       ทั้งนี้ นายอร่ามเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้คุมสอบ กรณีเมื่อปี 2556-2557 ก.อบต.มหาสารคาม จัดสอบแข่งขันบรรจุพนักงานส่วนตำบล ในองค์การบริหารส่วนตำบล พื้นที่ อ.เมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสในการจัดสอบ และมีการเปลี่ยนแปลงผลคะแนนสอบ จนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในที่สุด
       
       ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีผู้ถูกกล่าวหาในระดับนายก อบต.ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอย่างน้อย 15 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีการระบุรายชื่อ ระบุแค่ตำแหน่ง ได้แก่ นายก อบต.ลาดพัฒนา อ.เอง นายก อบต.วังยาว อ.โกสุพิสัย นายก อบต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย นายก อบต.ดอนงัว อ.บรบือ นายก อบต.เมืองเตา อ.พยัคฆภูมิพิสัย นายก อบต.หนองแวง อ.กุดรัง นายก อบต.ยางสีสุราช อ.ยางสีสุราช นาย อบต.เชียงยืน นายก อบต.ในท้องที่ อ.นาดูน นายก อบต.ในท้องที่ อ.กันทรวิชัย นายก อบต.ในท้องที่ อ.นาเชือก นายก อบต.ในท้องที่ อ.บรบือ นายก อบต.ในท้องที่ อ.วาปีปทุม นายก อบต.ในท้องที่ อ.โกสุมพิสัย นายก อบต.ในท้องที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย
       
       สำหรับความคืบหน้าในการไต่สวนเกือบทั้งหมดอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำบุคคล และมีบางรายอยู่ระหว่างทำบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
       
       นอกจากนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังอยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงข้าราชการที่อาจมีส่วนพัวพันกับกรณีดังกล่าวอีก 4 ราย ได้แก่ นายยุทธเดช พลอยสังวาล อดีตเลขานุการคณะกรรมการองค์การบริหารส่วนตำบล (ก.อบต.) มหาสารคาม นายพงษ์ศักดิ์ ทิสานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ และนายสมคิด มธิปะโน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแก่งนาจารย์พิทยาคม อีกด้วย
       
       ขณะที่ 2 อบต. และเจ้าหน้าที่ อบต.ข้างต้น ก็ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ ตามคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 1/2559 และต่อมาทางจังหวัดมหาสารคามก็มีคำสั่งไล่ออกถึง 32 ราย 

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน