จากประชาชาติธุรกิจ
สุนทรพจน์ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีเปิดการประชุม Belt and Road Summit ครั้งที่ 3 ที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระหว่างเดินทางเพื่อชักจูงการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนจีน วันที่ 26-30 มิ.ย. 2561
ฮ่องกงหัวหอกหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง
“ดร.สมคิด” เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ท่ามกลางนักลงทุนชาวจีนและฮ่องกงกว่า 5,000 คน ว่า ฮ่องกงในวันนี้เปลี่ยนไป เป็นฮ่องกงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ มีจุดหมายแห่งอนาคตชัดเจนและเปี่ยมด้วยศักยภาพที่จะก้าวต่อไปในอนาคตที่ทรงพลัง ไม่ใช่เป็นเพียงประเทศผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ ไม่ใช่เพียงเมืองท่าและศูนย์กลางการเงินที่ยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาค แต่ฮ่องกงเป็นหัวใจสำคัญที่มีส่วนผลักดันให้เอเชียเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก และเป็นหัวหอกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความร่วมมือทางการค้าการลงทุนเคียงคู่ขนานกับการเชื่อมโยงเส้นทางยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative (BRI) กับพันธมิตรในภูมิภาคอื่นของโลก
ฮ่องกงนั้นเป็นเสือเศรษฐกิจแห่งเอเชียที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ แต่ ณ วันนี้เสือตัวนี้ได้รับการติดปีกให้เป็นเสือทรงพลังที่บินได้ และปีกนั้น คือบทบาทที่ได้รับการคาดหวังและมอบหมายจาก BRI ที่ลือลั่นของจีน เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้อีกแล้วว่า ศตวรรษแห่งเอเชีย หรือ Asia Century ที่ร่ำลือมานาน บัดนี้ได้กลายเป็นจริง
เอเชียมหาอำนาจ ศก.-ความมั่นคงใหม่
ต้องยอมรับว่า ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์โลกปรับตัวอย่างรุนแรง ผู้นำสหรัฐประกาศนโยบายเน้น America first มาตรการที่ติดตามมา อาทิ ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) การถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) การถอนตัวจากสนธิสัญญาปารีส มาตรการด้านภาษีเพื่อตอบโต้ทางการค้า และความไม่เป็นหนึ่งเดียวของการประชุมล่าสุดของ G7 ล้วนมีผลให้ระเบียบโลกทั้งเศรษฐกิจและการเมือง
ถึงแม้ว่าวันนี้ยังไม่สามารถหาจุดเสถียรหรือจุดสมดุลใหม่ แต่ปรากฏการณ์หนึ่งกลับกำลังก่อตัวขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน คือ การขยับเพื่อปรับตัวของความร่วมมือใหม่ของกลุ่มประเทศในโลก ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง อาทิ การก่อตัวของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ระหว่าง 10 ประเทศอาเซียนกับ 6 ประเทศคู่เจรจา ที่มีจีนเป็นหัวหอก (RCEP) การประกาศเดินหน้าเขตการค้าเสรีของ 11 ชาติพันธมิตร นำโดยญี่ปุ่น การก่อตัวของแนวร่วมพันธมิตรภายใต้แนวคิด Indo-Pacific Partnership พาดผ่านกลุ่มประเทศระหว่าง 2 คาบสมุทรอินเดียและแปซิฟิก
ตัวจักรใหม่สู่การค้าเสรี
“กล่าวขวัญมากที่สุดและเริ่มเห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมแล้วคือ BRI ที่ขับเคลื่อนโดยจีน และคำประกาศที่ติดตามมาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุม Boa Forum สนับสนุนและจรรโลงแนวคิดการค้าเสรี”
ฉะนั้น จังหวะเวลาในการจัด BRI Summit ในครั้งนี้ต้องถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งในเชิงของสถานการณ์ เส้นทางรถไฟยุทธศาสตร์เป้าหมายหลายเส้นทางได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โครงการรถไฟเชื่อมจีนสู่ยุโรปไปได้ดี เส้นทางรถไฟ Transconti-nental Rail เชื่อมโยงจีนผ่านมองโกเลียกำลังถูกขับเคลื่อนพร้อมกับโครงการสร้างท่าเรือตามเส้นทางเลียบมหาสมุทรอินเดีย
“งานก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีนตอนใต้ผ่านลาวและไทยลงใต้สู่อาเซียนอยู่ในระหว่างก่อสร้างหรือในขั้นตอนที่กำลังวางแผนร่วมกัน เส้นทางสู่ลาวกำลังคืบหน้าไปมากในขณะที่โครงการความร่วมมือรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 กำลังก่อสร้างและจะไปบรรจบกับลาวในไม่ช้า ขณะเดียวกันธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) สามารถขยายสมาชิกพันธมิตรไปได้ถึง 86 ประเทศ”
BRI พาดผ่านไทย-อินเดีย
สำหรับประเทศไทย ยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงกับ BRI มิใช่อยู่ที่ความร่วมมือการสร้างรถไฟความเร็วสูงอย่างเดียว แต่ไทยกำลังเร่งสร้างทางรถไฟรางคู่ คู่ขนานกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สู่ลาวและเชื่อมไปถึงกัมพูชาในทิศตะวันออก และไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายที่เมียนมา ในอนาคตจะเห็นการเชื่อมโยงทั้งการค้า การลงทุนและนักท่องเที่ยวระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนโดยรวม เชื่อมโยงครอบคลุมถึงเส้นทางถนนที่กำลังเร่งเชื่อมโยงผ่านเมียนมาและลาวสู่จีนตอนใต้ และผ่านเมียนมาสู่อินเดียและบังกลาเทศ
การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมอย่างไร้รอยต่อคือหัวใจสำคัญสูงสุดของ BRI แต่ในอนาคต ความสำคัญที่มิได้ด้อยกว่าเลยคือการเชื่อมโยงด้านดิจิทัล
โอกาสทางธุรกิจใหม่
“กรณีของประเทศไทย Belt and Road ได้แสดงให้เห็นผลอย่างชัดเจนในการสร้างประโยชน์เศรษฐกิจร่วมกัน คณะนักลงทุนไม่ว่าจากแผ่นดินใหญ่ หรือจากฮ่องกงได้หลั่งไหลเข้ามาติดต่อ ประสานและลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ประโยชน์ทางเศรษฐกิจเหล่านี้ย่อมมิได้จำกัดอยู่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่จะขยายตัวครอบคลุมสู่ทั้งภูมิภาคเพราะความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ และหากเส้นทางรถไฟและเส้นทางคมนาคม เสร็จสมบูรณ์ การเชื่อมโยงของทั้งคนและสินค้าจะทวีขึ้นอย่างมหาศาล การเชื่อมโยงทางอินเทอร์เน็ตที่จะนำไปสู่การค้า e-Commerce การขยายตัวของ logistic ที่จะตามมา”
ฮ่องกง-Super Connector
ด้วยบทบาทและศักยภาพของฮ่องกง และ greater bay area ทั้งการเป็นฐานการผลิตที่ยิ่งใหญ่ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่เข้มแข็งและ SMEs บริการทางการเงินระดับโลก ฮ่องกง มาเก๊า และกวางตุ้ง ในฐานะหัวหอกของ Pan Pearl River Delta (PPRD) ในฐานะมณฑลที่มีขนาดจีดีพีถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จึงเหมาะสมกับบทบาทที่ super connector ทั้งระหว่างรัฐต่อรัฐและเอกชนกับเอกชนของ BRI ในทุกเส้นทางที่ One Belt One Road พาดผ่าน โดยเฉพาะด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการทางการเงินและขับเคลื่อนให้นักธุรกิจก้าวออกไปร่วมลงทุน
ACMECs ศูนย์กลางจีน-อาเซียน-ยุโรป
ความสำเร็จของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำ 5 ชาติแห่งลุ่มน้ำอิระวดี เจ้าพระยา และลำน้ำโขง (ACMECs) ครั้งที่ 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศ Master Plan ระหว่างสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย (CLMVT) ไม่ใช่เพียงมีขนาดประชากรกว่า 230 ล้านคน และจำนวนแรงงานมากกว่า 130 ล้านคน เป็นทั้งตลาดและ supply chain ที่สำคัญในเอเชีย แต่ในห้วงเวลาที่ BRI กำลังเชื่อมโยงจีนลงใต้สู่อาเซียน และในห้วงเวลาที่แนวคิดความร่วมมือ Indo-Pacific กำลังผลักดัน
ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตน ไปเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส ผู้นำทั้งสองต่างแสดงความสนใจที่จะเชื่อมโยงกับ ACMECs ผ่านไทย และสนใจที่จะทำเขตการค้าเสรี (FTA) กับอาเซียน ซึ่งไทยจะเป็นประธานในปีหน้า โดยผู้นำทั้งสองประเทศตอบรับเป็นแขกพิเศษอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนตอนบน หรือ ACMECs ได้กลายเป็นดินแดนที่อยู่ใจกลาง ที่สำคัญยิ่งทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาค ดังนั้นเมื่อ greater bay area เป็นภูมิภาคที่อยู่ติดกับ ACMECs โดยตรง เส้นทางรถไฟจากจีนที่จะลงสู่ใต้จะเป็นการเชื่อมโยงประชาชนและธุรกิจระหว่าง 2 ภูมิภาคโดยตรง หากมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกันในระหว่าง 2 อนุภูมิภาค ย่อมหมายถึงพลังร่วมที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้น
ตัวกลางผสานจีนตอนใต้-อาเซียนตอนเหนือ
ไทยจะอาสาเป็นผู้ประสานผ่าน ACMECs เชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยเริ่มจาก ฮ่องกง มาเก๊าและกวางตุ้ง ในฐานะส่วนหัวของ PPRD เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้จีนตอนใต้และอาเซียนตอนเหนือเชื่อมโยงประสานพลังกัน และจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเชื่อมโยงไปทั้งอาเซียนโดยรวมและระหว่างอนุภูมิภาคอื่นบนเส้นทางของ BRI ขอให้มั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ฮ่องกงจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการก่อตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการค้าฮ่องกง (ETO) ที่กรุงเทพฯต้นปีหน้า
#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน