สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เยี่ยมเยือนตั๊ก-อิ-ไบ พุทธสถานที่เป็นมรดกโลกที่ปากีสถาน

จาก โพสต์ทูเดย์

ตั๊ก บาฮิ หรือตั๊กไบ หรือตั๊กอิบาฮิ (Takht Bahi or Takhtbai or Takht-i-Bahi) เป็นแหล่งพระพุทธศาสนาในเมืองมาร์ดาน จังหวัด N.W. F.P. ประเทศปากีสถาน ที่ย้อนอดีตไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล...

โดย...สมาน สุดโต

ข่าวอุทกภัยในปากีสถานสร้างความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่าย เพราะเป็นวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน สึนามิว่าโหดร้ายแล้ว อุทกภัยที่ปากีสถานครั้งนี้โหดกว่า

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า ประชาชนชาวปากีสถานราว 14 ล้านคนระส่ำ ยูเอ็นระดมช่วยเหลือด่วน

มัวริโอ จูเลียน โฆษกฝ่ายความร่วมมือด้านมนุษยชนของสหประชาชาติ กล่าวว่า เป็นสถานการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายในรอบ 80 ปี เป็นอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างความเดือดร้อนรุนแรงมากกว่าเหตุมหันต ภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่ของโลก 3 ครั้งรวมกัน

พัลลภ ไทยอารี เลขาธิการองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ที่เคยรับเชิญจากรัฐบาลปากีสถานให้ไปเยี่ยมเยือนพุทธสถานในประเทศนั้นเมื่อ เดือน มี.ค. 2553 แสดงความวิตกกังวลต่อความความเดือดร้อนของประชาชนชาวปากีสถานที่ประสบ อุทกภัยครั้งนี้ จึงเร่งระดมเงินทุนจากประเทศสมาชิก พ.ส.ล. เพื่อให้ความช่วยเหลือในนามองค์กรชาวพุทธของโลก ซึ่งผู้ที่มีวามประสงค์สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ที่

ชื่อบัญชี : WFB FOR HUMANITARIAN ASSISTANCE
บัญชีเลขที่ : 003-2-30263-9
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท 33 (บางกะปิ) :
Swift Code : KASTTHBK
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่พัลลภ โทร. 08-1824-5562

ตั๊ก-อิ-ไบ พุทธสถานที่เป็นมรดกโลก

ตามข้อมูลที่สำนักงานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกแจ้งมานั้น เปชวาร์ แหล่งอารยธรรมของโลก หรือบ่อเกิดแห่งพุทธศิลป์ ที่เรียกศิลปะคันธาระ อาจได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยครั้งนี้ด้วย พัลลภ เลขาธิการ พ.ส.ล. บอกว่า เป็นความจำเป็นที่องค์กรชาวพุทธต้องแสดงน้ำใจให้ปรากฏ ตามหลักพุทธศาสนาที่อบรมสั่งสอนมนุษย์ให้มีเมตตา กรุณา ห่วงใย และเอื้ออาทรต่อกัน ตามหลักพรหมวิหาร 4 และเป็นการรำลึกถึงอดีตบรรพชนที่สรรค์สร้างพุทธศิลป์ และพุทธสถานไว้มากมายในดินแดนคันธาระ หรือที่เรียกว่า เปชวาร์ และ N.W.F.P. ในปัจจุบัน และเป็นการรำลึกถึงน้ำใจประชาชนและรัฐบาลปากีสถานที่อนุรักษ์พุทธสถานและ ปูชนียวัตถุทางพุทธศาสนาหลายแห่งให้ปรากฏต่อสายตาชาวพุทธและชาวโลกใน ปัจจุบัน จึงระดมทุนช่วยอุทกภัยครั้งนี้

ผมได้รายงานในคอลัมน์นี้อย่างน้อย 8 ตอนติดต่อกัน ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2553|ถึงแหล่งสำคัญทางพระพุทธศาสนาในปากีสถาน เช่น เรื่องตอนที่ว่าด้วยการบูชาพุทธสถานอายุ 2,500 ปีที่ปากีสถานตักสิลาดินแดนแห่งวัดและพระพุทธรูป เมืองหลวง 3 แห่งของคันธาระ เยี่ยมมรดกพื้นบ้านที่ปากีสถาน ผู้นำชาวพุทธในปากีสถาน ต้นแบบพุทธศิลป์คันธาระ และภาพพุทธประวัติคันธาระ เป็นต้น

แต่เรื่องราวความรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาในดินแดนปากีสถาน ที่เป็นประเทศผู้นับถืออิสลามในปัจจุบัน ยังไม่จบแค่นั้น มีสถานที่สำคัญอีกหลายที่หลายแห่งที่ยังไม่ได้รายงาน วันนี้จึงขอรายงานเรื่อง ตั๊ก-อิ-ไบ แหล่งพุทธศาสนาที่องค์การศึกษาและวิทยาศาสตร์แห่งองค์การสหประชาชาติ (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2523

การที่พุทธสถานอยู่ในปากีสถานนั้น ต้องย้อนอดีตครั้งพุทธกาลตอนนั้นคำว่า ประเทศปากีสถานยังไม่ปรากฏในแผนที่ เพราะที่เป็นปากีสถานปัจจุบันนั้นส่วนหนึ่งเป็นแคว้นคันธาระ ที่อยู่ในชมพูทวีป

คันธาระเป็นหนึ่งในมหาชนบท 16แคว้น ในอดีตนั้นครอบคลุมพื้นที่เรียกว่าราวันปินดี และเปชวาร์ในปัจจุบัน

สหราชอาณาจักรให้เอกราชแก่ประเทศปากีสถานเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2490

ตั๊ก บาฮิ หรือตั๊กไบ หรือตั๊กอิบาฮิ (Takht Bahi or Takhtbai or Takht-i-Bahi) เป็นแหล่งพระพุทธศาสนาในเมืองมาร์ดาน จังหวัด N.W. F.P. ประเทศปากีสถาน ที่ย้อนอดีตไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล

ชาว ปากีสถานกับพระสงฆ์และผู้แทน พ.ส.ล.

ตั๊ก หมายถึง บัลลังก์ และบาฮิ หมายถึง น้ำ หรือน้ำพุ ในภาษาอูรดู เรียกว่า ตั๊ก อิ บาฮิ เพราะตั้งอยู่บนยอดภูผาที่ชุ่มฉ่ำจากน้ำตก

พุทธสถานนี้ตั้งอยู่ห่างจากมาร์ดาน 15 กิโลเมตร มาร์ดานอยู่ในจังหวัดไคเบอร์-ปักทุนควา ซึ่งเป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบที่ย้อนอดีตยาวไกลเช่นกัน

โบราณสถานแห่งนี้ตั้งใกล้หมู่บ้านสมัยใหม่ที่มีชื่อเช่นเดียวกัน รอบๆ หมู่บ้านเป็นที่มีชื่อเสียงในการปลูกอ้อย โดยมีโรงงานน้ำตาล Frontier Sugar Mills ตั้งอยู่

พระพุทธรูปยุคคันธาระที่สวยงาม เป็นพุทธศิลป์ระดับโลก ตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์เปชวาร์ เกือบทั้งหมดนำไปจากตั๊ก-อิ-ไบ นี้ทั้งสิ้น

ผมเปิดบันทึกความทรงจำเมื่อถึงพิพิธภัณฑ์เปชวาร์ วันที่ 26 มี.ค. 2553 ว่า เมื่อพวกเราทุกคนมาถึงพิพิธภัณฑ์เปชวาร์ในเวลา 10.00 น.เศษ ภัณฑารักษ์พาเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ ทุกคนที่ไปนั้นล้วนแต่เป็นชาวพุทธอาวุโส เช่นพระธรรมวราจารย์|ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พระ ดร.อนิล ศากยะ พระนักวิชาการทางพระพุทธศาสนา พัลลภ ไทยอารี เลขาธิการ พ.ส.ล. เป็นต้น เมื่อพบพระพุทธรูปในพิพิธภัณฑ์ต่างตกตะลึง เพราะภาพที่เห็นเบื้องหน้าเต็มไปด้วยพระพุทธรูปศิลปะคันธาระ หน้าตาแบบกรีก เป็นพระพุทธรูปสมัยแรกๆ ก่อนคริสตกาลประมาณ 200-300 ปี สวยงามเต็มไปด้วยพุทธศิลป์และพุทธคุณจนยากที่จะบรรยาย

ภัณฑารักษ์ บอกว่า เป็นพระพุทธรูปที่ย้ายมาจากตั๊ก-อิ-ไบ ทั้งสิ้น

เมื่อชมพิพิธภัณฑ์จนได้เวลาพอสมควร ทั้งๆ ที่ยังไม่เต็มอิ่ม ก็ต้องเดินทางต่อ เข้ามารับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมและเดินทางต่อไปยังตั๊ก-อิ-ไบ และสวัต วัลเลย์ ท่ามกลางการคุ้มกันจากทหารและตำรวจอย่างแน่นหนา

พัลลภ ไทยอารี (เสื้อขาว) พระธรรมวราจารย์และคณะสงฆ์

พวกเราที่เดินทางต่างก็ตื่นเต้นกับภาพการคุ้มกันมาก เพราะจะมีรถตำรวจนำขบวนบางช่วงเปิดไซเรนขอทาง เมื่อจะพักหรือหยุดชมอะไรที่ไหน เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจจะกระจายกำลังเป็นหน้ากระดาน ระมัดระวังอันตราย ทำให้พวกเรารู้สึกว่าเป็นบุคคลสำคัญ แต่พระคุณเจ้าบางรูป บอกว่า เหมือนการชี้เป้าให้ผู้ประสงค์ร้ายรู้และสังเกตได้
เมื่อเราเดินทางไปถึง ตั๊ก-อิ-ไบ ทหารตำรวจกระจายกำลังตามจุดต่างๆ แต่ก็ห้ามคนอยากรู้โดยเฉพาะเด็กๆ ไม่ได้ เมื่อพวกเขาที่มาชมสถานที่นี้เช่นกัน เห็นพระคุณเจ้าต่างเข้ามาดู เพราะเห็นการนุ่งห่มของพระสงฆ์แปลกตายิ่งกว่าสิ่งที่ต้องการดูในพุทธสถานสี ยอีก

ย้อนกลับมาดูภาพรวมๆ ที่ตั๊ก-อิ-ไบ ต่อ หลังจากไต่เนินเขาขึ้นไปที่เป็นทางทางลาดชันประมาณ 45 องศา ผ่านตัวตึกที่เป็นที่พักหัวหน้าพระที่อยู่ด้านหน้า จะพบลานกว้างที่แวดล้อมด้วยอาคารที่เป็นตึก แบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องมองขึ้นไปจะเห็นรูปวงกลม บนหลังคาหลายห้องด้วยกัน ที่ตรงนี้คือสถานที่พระพทธรูปปางต่างๆ ยุคคันธาระที่โยกย้ายไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์|เปชวาร์ประดิษฐานอยู่ก่อน

ที่เหลือในลานกว้างเป็นร่องรอยที่ตั้งสถูปองค์ใหญ่ ส่วนสถูปองค์เล็กๆ ซึ่งเป็นสถูปที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศเพื่อบุญกุศล เท่าที่นับดูมีประมาณ 35 องค์ ประดิษฐานอยู่โดยรอบ

หากต้องการดูว่าการบูรณะซ่อมแซมมีอย่างไรเมื่อไร นอกจากเห็นคนงานที่กำลังทำงานอยู่บางจุด จะเห็นที่เขาสลักไว้ที่ก้อนอิฐบางก้อนบอกปีที่ซ่อมแซม เช่น 1920, 1928, 1937 เป็นต้น

ตั๊ก-อิ-ไบ

จากจุดที่เราชมอยู่หากมองออกไปรอบๆ ยังหน้าผาใกล้เคียงก็จะพบลักษณะการก่อสร้างคล้ายคลึงกับวัดที่เรากำลังชม อยู่เช่นกัน แสดงว่าการสร้างวัดหรือที่พักพระสงฆ์กระจายไปบริเวณกว้าง

ในฐานะที่เราเป็นประชาชนคนธรรมดา มองดูการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ที่เป็นพุทธสถานบนที่สูง ด้วยวัสดุก่อสร้างที่ล้วนแต่เป็นหินที่เป็นของหนักนั้น ได้ข้อสรุปว่า หากคนสร้างไม่มีบุญบารมีและความศรัทธาอันหาที่สุดมิได้แล้ว คนธรรมดาสามัญมิบังอาจทำได้แน่นอน ผู้ที่สร้างที่เช่นนี้ได้ไม่เป็นอัครมหาเศรษฐี ก็ต้องพระราชามหากษัตริย์ในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม การที่เป็นพุทธสถานที่อยู่บนที่สูงเช่นนี้ กลายเป็นบุญของชาวพุทธในปัจจุบันที่สามารถไปบูชาและชื่นชมได้ เพราะพุทธสถานดังกล่าวรอดพ้นจากการบุกรุกทำลายจากคนในศาสนาอื่นและฮันขาว มิเช่นนั้นคงไม่มีให้เราได้พบได้เห็น

แต่ถึงกระนั้น มาในยุคหนึ่งก่อนที่จะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก บริเวณเหล่านี้ถูกยึดครองโดยกลุ่มบุคคล จนกระทั่งหน่วยงานการกุศลได้หาทุนมาไถ่กลับคืนมา
ปัจจุบันรัฐบาลปากีสถาน อนุมัติเงินทุนสนับสนุนโครงการใหญ่เพื่อทำการอนุรักษ์ที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่า นี้ มิใช่เฉพาะตั๊ก-อิ-ไบ หากรวมพุทธสถานอื่นที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วย เช่น Jamal Garhi, Shahbaz Garhi, Butkara-I and III. Panr, Shingardar stupa and Saidu stupa โครงการใหญ่นี้จะสมบูรณ์ในปี 2553 นี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องเร่งด่วนขณะนี้ คือ ช่วยเหลือปากีสถานที่ประสบอุทกภัยผ่านองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) บริจาคได้ที่ธนาคารที่ระบุชื่อข้างบน จักเป็นพระคุณยิ่ง เพราะนอกจากเป็นการช่วยมนุษยชาติแล้ว ยังเป็นการช่วยพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่งด้วย

Tags : เยี่ยมเยือน ตั๊ก-อิ-ไบ พุทธสถาน มรดกโลก ปากีสถาน

view