จาก โพสต์ทูเดย์
ปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องเกิดขึ้นภายหลังที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้กับแพทย์...
โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน
ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ เปิดแถลงข่าวด่วน เรื่อง "โรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง ข้อเท็จจริงสถานการณ์การเงินการคลัง ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้สื่อข่าวและสาธารณชน ภายหลังปรากฏข้อมูลในลักษณะที่ว่า “สปสช.” เป็นต้นเหตุทำให้โรงพยาบาลขาดทุน
การแถลงข่าวในวันนั้น คณะกรรมการสปสช. ได้ชี้แจงถึงการประมาณการจัดสรรเงินกองทุนเหมาจ่ายรายหัวปีงบประมาณ 2554 จำนวน 101,057 ล้านบาท ว่าได้จัดสรรให้แก่โรงพยาบาลสังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถึง 70,905 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้จะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลทั้งระบบ ถ้าไม่รวม “ค่าตอบแทนพิเศษแพทย์”
“ปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องเกิดขึ้นภายหลังที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษให้กับแพทย์ทั้งโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป”นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.ขมวดปมปัญหาให้เข้าใจโดยง่าย
สอดรับกับคำอธิบายของ นพ.พีรพล สุทธิวิเศษศักดิ์ รองเลขาธิการ สปสช. ที่บอกว่า งบปี 54 ที่จัดสรรไว้นั้น ยังไม่รวมค่าตอบแทนพิเศษของโรงพยาบาลทั้งระบบซึ่งมีประมาณ 9,000 ล้านบาท และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรงพยาบาลขาดสภาพคล่องคือการบริหารของผู้บริหารโรง พยาบาลเอง
“ทราบมาว่ามีโรงพยาบาลบางแห่งที่จ่ายค่าตอบแทนแพทย์เกินเกณฑ์กำหนด” รองเลขาธิการชี้ชัดถึงสาเหตุโรงพยาบาลขาดทุนไปในทิศทางเดียวกัน
นพ.พีรพล กล่าวต่อไปว่า สปสช.เคยทำเรื่องของบสำหรับจ่ายค่าตอบแทนพิเศษจากสำนักงบประมาณไปแล้วจำนวน 5,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับอนุมัติ โดยสำนักงบประมาณระบุว่าสปสช.ไม่มีอำนาจขอ เพราะเป็นอำนาจของกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง ดังนั้นจึงต้องรอนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณาว่าจะให้เงินก้อนนี้หรือไม่ ส่วนเงินอีก 4,000 ล้านบาท เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องหามาเพิ่มเติมเอง
ขณะที่ อัมมาร สยามวาลา ประธานอนุกรรมการการเงินการคลัง สปสช. เชื่อว่า หากได้รับอนุมัติงบประมาณสำหรับจ่ายค่าตอบแทนเป็นการเฉพาะ ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนก็จะไม่เพิ่ม อย่างไรก็ตามสำนักปลัดกระทรวง สาธารณสุขเป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการจ่ายค่าตอบแทน ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาจึงเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องจัดการ
คล้อยหลังเพียง 1 วัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เงินค่าตอบแทนพิเศษแพทย์หรือการจัดสรรงบของสปสช. ทั้งนี้มองว่าเกิดจากระบบบริการสาธารณสุขทั้งระบบ
ข้อมูลจากกลุ่มงานประกันสุขภาพของสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข เสนอผ่านรายงานสถานะการเงินหน่วยบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าไตรมาส 4 ของปี 52 แบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายออกเป็น บุคลากร-เงินงบประมาณ 25.35% บุคลากร-เงินบำรุง 14.93% ต้นทุนบริการ 23.71% และอื่นๆ 36%
ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปี 53 (ประมาณการ 12 เดือน) แบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายออกเป็น บุคลากร-เงินงบประมาณ 24.34% บุคลากร-เงินบำรุง 16.23% ต้นทุนบริการ 23.09% และอื่นๆ 36.34%
รายงานวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายไตรมาส 2 ปี 53 พบค่าใช้จ่ายหมวดบุคลากรเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 65.74% คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่าย 10,665.86 ล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 11.15% ซึ่งถือว่าต่ำมาก แสดงถึงมีการลดค่าใช้จ่ายหมวดอื่นๆ เพื่อชดเชยรายจ่ายหมวดบุคลากร
ต่อประเด็นการปรับอัตราค่าตอบแทนตามระเบียบค่าตอบแทนฉบับที่ 4 – 7 ที่ออกมาในปี 52 -53 นั้น รายงานเสนอว่าจำเป็นต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนว่าเพิ่มขึ้นมากตามที่หลายฝ่าย กังวลหรือไม่ ทั้งนี้การเพิ่มของค่าใช้จ่ายถ้ามองผิวเผินเฉพาะการ เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรจากเงินบำรุงเดิม ที่มีตัวเลขการเพิ่มถึง 65% นั้น หากเปรียบเทียบกับหมวดเงินเดียวกันอาจดูเหมือนมาก แต่หากพิจารณาจากสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด พบว่าค่าตอบแทนจากเงินบำรุงเพิ่มขึ้นเพียง 1.30% (จาก 14.93% เป็น 16.23%) เท่านั้น
และหากเปรียบเทียบยอดค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 10,665.86 ล้านบาท กับค่าใช้จ่ายประมาณการทั้งหมดของปี 53 คือ 165,645.75 ล้านบาท จะพบว่าเป็นสัดส่วนเพียง 6.4 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้รายงานยังสรุปไว้อีกว่า หากถือว่าการเพิ่มค่าตอบแทนเสมือนการลงทุนของกระทรวงสาธารณสุข ก็ถือเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ถือว่ามาก และเมื่อเทียบกับเอกชนยังถือว่าไม่ได้สูงกว่าค่าตอบแทนในภาคเอกชน
ส่วนสาเหตุของการขาดทุนนั้น เมื่อวิเคราะห์แหล่งรายได้จะพบว่า ภาพรวมรายได้ของหน่วยบริการสาธารณสุข (โรงพยาบาล) สังกัดสำนักปลัดฯ มาจากโรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ ซึ่งมีแหล่งรายได้ และผลกำไรจาก NON UC (รายได้ที่ไม่ได้มาจากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง) ในทางตรงกันข้าม กองทุน UC (สปสช.) เป็นแหล่งรายได้หลักของโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่มีภาวะขาดทุนเป็นหลัก กระทั่งทำให้โรงพยาบาลขาดทุนทั้งระบบ
ในขณะที่ สปสช. และสำนักปลัดฯ กำลังโยนไปมาว่าอีกฝ่ายหนึ่งคือ “มูลเหตุ” ที่ทำให้เกิดสถานการณ์โรงพยาบาลขาดทุน
ความจริงที่ยากจะปฏิเสธคือ “ประชาชน” ต้องมาแบกรับผลกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกเช่นเคย